เมื่อวันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท. และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท. ร่วมกันแถลงข่าวกรณี ส.ส.ของพรรคจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคคือ ต้องลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีอีก 5 คน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่พรรคเพื่อไทย (พท.)
น.ส.อรุณีกล่าวว่า ส.ส. คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคมีการประชุมในวันที่ 6 กันยายน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงใน 3 กรณี คือ 1.ที่มีเจตนาฝ่าฝืนมติของพรรค โดยขาดประชุมโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่ 2.ฝ่าฝืนมติพรรค และยังให้ร้ายพรรคด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือไม่ และ 3.ฝ่าฝืนมติพรรค และมีมติบ่งชี้ว่าอาจจะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก่อนพิจารณาดำเนินการในขั้นต่อไป หากพบจงใจทำผิดขั้นร้ายแรง พรรคจะดำเนินการขับออกจากสมาชิกพรรคทันทีตามที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยัง ส.ส.ทุกคนก่อนหน้านี้
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ผลการลงมติที่ผ่านมานั้น แสดงว่าผู้แทนในสภาไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์น้อยลงทุกวัน แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ได้ไม่นาน ส่วนกรณี ส.ส.พรรค พท.โหวตสวนมติพรรคนั้น พรรคมีมติแล้วว่าให้ไม่ไว้วางใจทุกคน ห้ามป่วย ห้ามขาด หามลาประชุม และห้ามไว้วางใจ และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. ยังได้ออกหนังสือกำชับ ส.ส.ของพรรคให้ลงมติตามพรรคด้วย โดยหนังสือระบุชัดเจนว่า ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ถือว่าทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นพิจารณาขับออกจากพรรค
นอกจากนี้ วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสมพงษ์ได้เรียกให้ ส.ส.ทุกคนมาเซ็นชื่อรับหนังสือ จะมาอ้างว่าไม่ได้รับหนังสือ ไม่ทราบ ไม่รู้ ไม่เห็นไม่ได้ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน และผู้บริหารพรรคยอมไม่ได้ ดังนั้น ส.ส. 7 คน ของพรรค พท.ที่โหวตสวนมติพรรคในครั้งนี้เตรียมตัวเลย อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ตัวเองแน่ ในวันที่ 6 กันยายน ทุกอย่างจะเดินตามระเบียบข้อบังคับพรรคอย่างเข้มงวด ไม่มีประนีประนอม จะไปหาพรรคไหนอยู่ก็เรื่องของคุณ แต่ทั้งนี้จะมีคณะกรรมการเปิดโอกาสให้ชี้แจงก่อน ถ้าคิดว่าแน่ แล้วพรรคจะไม่กล้าขับ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พท.จะเป็นผู้เสนอขับเอง ส่วนกรณีที่ไปแถลงข่าวด่าพรรค พรรคก็จะเอาเรื่องด้วย เพราะพรรคไม่เคยกลัวใครเหมือนกัน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงการเตรียมเรียก 7 ส.ส.ของพรรค พท. ที่โหวตสวนมติพรรค มาให้เหตุผลว่า คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคจะได้มีการประชุมนัดแรกในวันที่ 6 กันยายนนี้ โดยจะกำหนดกรอบว่าจะดำเนินการอย่างใดกับสมาชิกที่ฝ่าฝืนมติของพรรค คณะกรรมการจะเรียก ส.ส.ที่ฝ่าฝืนมติพรรคเข้ามาชี้แจงเป็นรายบุคคลภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจึงจะสรุปผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป กระบวนการทั้งหมดนี้คิดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามที่ถามถึงกรณีของนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก พรรค พท.นั้น เจ้าตัวได้แจ้งมาว่าติดโควิดจึงไม่สามารถเดินทางมาลงมติในวันดังกล่าวได้ กรณีนี้ทางคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคจะต้องขอดูใบรับรองทางการแพทย์ก่อน
นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก พรรค พท. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลองครักษ์ ติดเชื้อโควิด-19 จากคนขับรถตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 5 กันยายน ได้แจ้งรายละเอียดเรื่องการรักษาต่อพรรค พท. ไม่ได้ร่วมลงมติในญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ …) พุทธศักราช … (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ซึ่งเป็นการพิจารณาเพื่อลงมติในวาระที่ 3 ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว พรรคสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ต้องยืนยันอีกแล้ว ทุกคนถึงเวลาวาระ 3 ก็โหวตเห็นชอบทุกคน มั่นใจว่าผลการลงมติวาระสาม ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญระบุเอาไว้ มาตรา 256 ที่ระบุว่า ต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวน ส.ส. ส.ว. เท่าที่มีอยู่ รวมถึงมีเสียง ส.ส.ฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 คือจำนวน 45 คน และมี ส.ว.ให้ความเห็นชอบ ไม่น้อยกว่า 1ใน 3 คือ 84 คนด้วย สำหรับขั้นตอนต่อไป ถ้าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมผ่านวาระสามแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีรอไว้ 5 วัน ถ้าหากไม่มีสมาชิกรัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญ ก็ให้นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 20 วันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลมีทิศทางการโหวตอย่างไร นายไพบูลย์กล่าวว่า แล้วแต่เขา แต่พรรค ปชป.คงเห็นด้วยหมด ส่วนทางพรรคฝ่ายค้านก็มีพรรค พท. ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก็ได้เสียงมากพอสมควร ให้ดูจากตอนพิจารณาวาระที่ 2 แต่การพิจารณาในวาระที่ 3 จะได้เสียงมากขึ้นเพราะการพิจารณาในวาระที่ 2 สมาชิกสภาอาจมาไม่ครบ แต่ในวาระที่ 3 ส่วนใหญ่จะมากันมากขึ้น ฉะนั้นเสียงโหวตจะมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจว่าการพิจารณาลงมติวาระที่ 3 ของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวันที่ 10 กันยายนนี้ จะผ่านฉลุยใช่หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ผ่าน เป็นไปตามหลักเกณฑ์แน่นอน เพราะไม่มีปัญหาอะไร
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ ถึงการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 วันที่ 10 กันยายนว่า พรรค พท.ยังยืนยันที่จะเดินหน้าตามที่ได้มีการเสนอคือบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยเป็น ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เหมือนธรรมนูญปี 2540 โดยในวันที่ 7 กันยายนนี้ พรรค พท.ได้เรียก ส.ส.ของพรรคประชุมร่วมกันในเรื่องการลงมติร่างรัฐธรรมนูญนี้ ก่อนจะมีการพิจารณาในสภาด้วย เพื่อสอบถามและรับฟังความเห็นจากสมาชิกให้รอบด้าน
เมื่อถามว่า ส.ว.เหมือนจะไม่เอาด้วยกับกรณีบัตร 2 ใบ แบบนี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีโอกาสที่จะผ่านหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เชื่อว่ามี ส.ว.ที่เห็นด้วย นอกจากนี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นร่างของทางรัฐบาล ถ้าไม่โหวตผ่านก็เท่ากับตีตกร่างของรัฐบาลเอง
©2018 CK News. All rights reserved.