วันที่ 5 ก.ย. 64 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เทพไท เสนพงศ์ ระบุว่า 

เป็นนักการเมืองจะพูดการเมือง
ไม่ได้ห่มเหลือง แต่ขอพูดเรื่องพระ (เล็กน้อย)
ผมไม่ใช่คนที่แก่วัดมากเท่าไหร่นัก และไม่ได้ซาบซึ้งในหลักพระพุทธศาสนาอย่างมากมาย แต่ก็ยอมรับว่า เป็นคนโลกสวย มองโลกในแง่ดีเสมอ แต่กรณีการ เฟซบุ๊กไลฟ์ ของพระมหาสมปอง กับพระมหาไพรวัลย์ ที่กำลังตกอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น 

ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องของการปั่นกระแสของสังคมมากกว่า เพราะหากจะพูดถึงวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์แล้ว ถ้ายังยึดอยู่ในประเพณีวัฒนธรรมในอดีต ก็อาจจะถูกตำหนิติเตียนได้ แต่ถ้าเป็นยุคสมัยใหม่ในโลกอินเตอร์เน็ต พระสงฆ์ก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับ สถานการณ์ความก้าวหน้าของโลกด้วย หรือจะให้พระสงฆ์นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมอยู่ในโบสถ์ ฉันภัตตาหารในศาลาการเปรียญ จำพรรษาอยู่แต่ในวัด ก็อาจจะไม่ทันสถานการณ์แล้ว ส่วนการสำรวมก็เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวัง แต่ถ้าเป็นบุคลิก หรือนิสัยประจำตัว ก็พอเข้าใจกันได้

เพราะฉะนั้น ต้องเข้าใจว่า การออกมาเฟซบุ๊กไลฟ์ ก็เป็นการสื่อสารของโลกโซเชียลที่เป็นไปตามยุคสมัย ขอให้เน้นการเคร่งครัดในแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา มากกว่าสนใจในเปลือกนอก หรือแค่กะพี้เท่านั้น 

ถ้ายังไม่มีการกระทำใดที่ผิดพระธรรมวินัย ถึงขั้นปาราชิก ก็ควรที่จะอะลุ้มอล่วยกันได้บ้าง เพราะยังมีเรื่องอื่นที่เลวร้ายมากกว่านี้ ที่ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสียอีกมาก 

ขอแสดงความเห็นตาม ความรู้สึก ในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง ไม่อยากจะแสดงความเห็นอะไรไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะถูกต่อว่าได้ว่า เป็นนักการเมืองก็พูดแค่เรื่องการเมือง ไม่ได้ห่มเหลืองอย่าพูดเรื่องพระ