เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 64 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า ผมได้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน เป็นเวลา 2 วันเต็มๆ โดยภาพรวมนั้น เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน และการแก้ปัญหาเชื่อไวรัสโควิด-19 ประมาณ 80% ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้ใช้เวลาอภิปรายไปประมาณ 22 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาล มีรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปราย ตอบคำถามใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีตอบคำถามการอภิปรายน้อยมาก  ส่วนประเด็นที่ตอบการอภิปราย ส่วนใหญ่ ก็เป็นการตอบคำถามจากข้อมูล ที่ ข้าราชการเขียนให้เป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ไม่เห็นบรรยากาศการอภิปราย และตอบข้อซักถามกันอย่างทันท่วงที แบบชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน เหมือนการอภิปรายในอดีตที่ผ่านมา เพราะต้องรอข้อมูลจากข้าราชการประจำมาตอบโต้ และชี้แจงประเด็นการถูกอภิปรายเสียก่อน

สำหรับข้อมูลวัคซีน และโควิด-19 นั้น ผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ มีคำตอบอยู่ในใจ และได้ตัดสินใจไปแล้วว่า จะเชื่อข้อมูลของฝ่ายใด เพราะข้อมูลการแพร่ระบาด มีผู้ติดเชื้อและผู้จำนวนผู้เสียชีวิต ก็ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวัน และในบางประเด็นที่มีเปิดโปงขบวนการไอโอ ก็จะมีคำตอบจากรัฐบาลในอีกวันต่อมาว่า เป็นการเสนอเอกสารปลอม  ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการอภิปรายทุกครั้ง มีประเด็นการอ้างเอกสารปลอมเพื่อมาหักล้างหรือแก้เกี้ยว ซึ่งทั้งหมดจะเป็นข้อมูลจริงหรือข้อมูลเท็จ ก็ต้องไปจบที่ศาลเท่านั้น

ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ความหวังของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต้องการที่จะล้มรัฐบาลให้ได้นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ถ้าตราบใดพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความเหนียวแน่น ผลประโยชน์ลงตัว ไม่มีความขัดแย้ง เล่นเกมการเมือง ช่วงชิงอำนาจกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง เว้นแต่มีการเล่นเกมกันเองภายในพรรคแกนนำรัฐบาล

จึงอยากให้จับตามดูว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จะเป็นการเตะหมูเข้าปากหมาหรือไม่