วันที่ 27 ส.ค. 64 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)​ ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงการคลัง ได้เริ่มให้มีการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และยิ่งใช้ยิ่งได้ เมื่อวันที่ 1 ก.ค .- 26 ส.ค. 64 ผลปรากฎว่า มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 62,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง 61,086.50 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 31,029.30 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 30,057.20 ล้านบาท จากผู้ใช้สิทธิ์สะสม 23.81 ล้านคน โดยโครงการคนละครึ่ง มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 26.80 ล้านคน ซึ่งถือว่ายังไม่เต็มจำนวนที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้ลงทะเบียนทั้งหมด 31 ล้านคน ขณะที่ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 1.3 ร้านราย

ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 69,752 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,526 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 42 ล้านบาท โดยโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ กระทรวงการคลังได้เปิดให้ลงทะเบียนทั้งหมด 1.4 ล้านคน ซึ่งถือว่าการลงทะเบียนยังไม่เต็มจำนวนเช่นเดียวกัน โดยมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเกือบ 5,000 ราย

น.ส.กุลยา กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือเพื่อเชื่อมระบบการใช้จ่ายเงินภายใต้โครงการคนละครึ่งกับแพลตฟอร์มฟู้ดดิลิเวอรี่ (Food Delivery) ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าระบบจะเชื่อมต่อกัน และเริ่มใช้งานได้ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงที่รัฐโอนเงินที่เหลืออีก 1,500 บาท ให้ประชาชนใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งในช่วงเดือน ต.ค.- ธ.ค. 64 นี้

สำหรับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มออนไลน์ ฟู้ด ดิลิเวอร์รี่ ที่ได้มีหารือกันมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า แกร็บฟู้ด แอร์เอเชียฟู้ด และช้อปปี้ฟู้ด เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว กระทรวงการคลังจะเปิดให้แพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ เข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนโรบินฮู้ด คาดว่าจะไม่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่ทั้งนี้้ต้องรอลุ้นตอนกระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนว่ายังสนใจที่จะร่วมโครงการหรือไม่

“การเชื่อมระบบระหว่างกันนั้น ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เพื่อให้ระบบมีความรัดกุม เงินไปสู่ร้านค้ารายย่อย และผู้บริโภค สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายจริงได้ด้วย เพราะเป็นเงินของรัฐ และเพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง”