วันที่ 27 สิงหาคม 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีเนื้อหาดังนี้
สถานการณ์ทั่วโลก 27 สิงหาคม 2564 ทะลุ 215 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 681,413 คน รวมแล้วตอนนี้ 215,402,781 คน ตายเพิ่มอีก 10,193 คน ยอดตายรวม 4,486,805 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด คือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร อิหร่าน และบราซิล
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 152,152 คน รวม 39,324,259 คน ตายเพิ่ม 1,123 คน ยอดเสียชีวิตรวม 651,851 คน อัตราตาย 1.7%
อินเดีย ติดเพิ่ม 44,558 คน รวม 32,602,325 คน ตายเพิ่ม 493 คน ยอดเสียชีวิตรวม 436,889 คน อัตราตาย 1.3%
บราซิล ติดเพิ่ม 31,024 คน รวม 20,676,561 คน ตายเพิ่ม 835 คน ยอดเสียชีวิตรวม 577,565 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,630 คน รวม 6,824,540 คน ตายเพิ่ม 820 คน ยอดเสียชีวิตรวม 179,243 คน อัตราตาย 2.6%
ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 19,683 คน ยอดรวม 6,693,019 คน ตายเพิ่ม 110 คน ยอดเสียชีวิตรวม 113,775 คน อัตราตาย 1.7%
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 88.7 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง เวียดนามติดเพิ่มเกินหมื่นเหมือนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น ส่วนเมียนมา เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
สถานการณ์ของไทยเรา เมื่อวานจำนวนติดเชื้อใหม่ 18,501 คน สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก
แต่เดี๋ยวก่อน...หากคิดเฉพาะจำนวนที่ติดเชื้อใหม่ในประเทศ และรวมจำนวนที่ตรวจพบจาก Antigen test kit (ATK) ด้วยอีกสองพันกว่าคน จะมียอดรวม 20,828 คน จะยังคงติดท็อปเท็น เป็นอันดับ 9 ของโลก การนับเคสติดเชื้อและการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อนั้นจำเป็นต้องมีความสอดคล้องกัน กล่าวคือ หากให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK ด้วยการให้ยาต่างๆ ตามแนวทางการดูแลรักษาที่กำหนด ไม่ว่าจะที่บ้าน หรือที่ศูนย์พักคอย ก็จำเป็นจะต้องรายงานคนกลุ่มนี้ไว้ในตัวเลขของการติดเชื้อรายวันด้วย ถ้าไม่สบายใจว่ายังไม่ได้ตรวจ RT-PCR ก็ให้รายงานทั้งสองตัวเลข และยอดรวมของทั้งสอง เพื่อให้ทุกคนทราบสถานการณ์ ไม่ใช่รายงานแต่ยอดต่ำเป็นหลัก เพื่อแสดงถึงความจริงใจ ความเที่ยงตรง และทันต่อเวลา หากทำเช่นนี้ได้ ก็จะทำให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันต่อสถานการณ์ และประพฤติปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
กระแสการผลักดันเพื่อเปิดกิจการห้างร้านต่างๆ รวมถึงร้านตัดผม ร้านนวดเท้า ร้านอาหารให้นั่งกิน ฯลฯ นั้นเป็นไปตามที่เคยคาดการณ์และแลกเปลี่ยนให้ฟังมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ธรรมชาติของการระบาดจากที่เห็นทั่วโลกนั้น จะตัดวงจรการระบาดได้ ต้องมีนโยบายและมาตรการที่ถูกต้องเหมาะสม และตัดสินใจทำอย่างทันเวลา ส่วนใหญ่มักมีโอกาสสำเร็จสูงหากทำภายในช่วงระยะแรกของการเริ่มระบาด
แต่หากทำแบบยึกยัก หรือประวิงเวลา โอกาสสำเร็จย่อมลดลงตามลำดับ และนำไปสู่การระบาดหนักหนา ยาวนาน พอถึงจุดนั้น ก็จะยืนระยะไม่ไหว ดังที่เห็นในหลายประเทศที่พยายามยื้อเรื่องเศรษฐกิจ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจล็อคดาวน์ทั้งประเทศอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยดำเนินนโยบายในลักษณะการประคับประคองไปเรื่อยๆ ดังที่เห็นกันว่า ไม่ได้ล็อคดาวน์เต็มรูปแบบ ทำให้มีการติดเชื้อจำนวนมากทุกวัน อย่างต่อเนื่อง และเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละวัน
สุดท้ายที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ การยืนระยะสู้ไม่ไหว และต้องเปิดให้มีการดำเนินชีวิตทำมาหากินท่ามกลางการระบาดที่ยังรุนแรง โดยที่ตัดวงจรระบาดไม่ได้ ระบบการตรวจคัดกรองโรคก็จำกัด ระบบสาธารณสุขก็ยังอยู่ในสถานะที่รองรับผู้ป่วยจำนวนมากตลอดเวลา รวมถึงเรื่องวัคซีนที่มีปัญหาทั้งด้านปริมาณ และเรื่องประสิทธิภาพต่อการจัดการสายพันธุ์กลายพันธุ์ หากเป็นเช่นนี้ ความเสี่ยงที่การระบาดที่รุนแรงจะทวีความรุนแรงมากขึ้นย่อมมีสูง กิจการ กิจกรรมใดๆ หากมีคนจำนวนมากมาอยู่ร่วมกันย่อมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่เชื้อ
องค์การอนามัยโลกยืนยันแล้วว่า ไวรัสโรคโควิด-19 นั้นติดได้ทั้งผ่านละอองฝอยน้ำลายน้ำมูก ซึ่งแพร่ได้ในระยะ 1-2 เมตร และที่น่าเป็นห่วงคือ ติดได้ผ่านละอองฝอยขนาดเล็ก โดยไวรัสสามารถแขวนลอยในอากาศได้เป็นเวลายาวนานกว่าครึ่งวัน ทำให้แพร่กันได้ผ่านทางอากาศ (aerosol transmission) แม้ในบริเวณดังกล่าวขณะนั้นไม่มีคนก็ตาม ดังนั้นจึงต้องระวัง ป้องกันตัวให้ดี
การเปิดร้านอาหารให้นั่งกิน ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดรุนแรงต่อเนื่องนั้น ถือเป็นความเสี่ยง ทั้งต่อผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร คนทำงาน และลูกค้า มีบทเรียนจากประเทศต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นแล้วว่า มีการแพร่ระบาดในร้านอาหารได้ นอกจากนี้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังสามารถติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าได้ และแพร่ให้แก่ผู้อื่นได้ เพราะปริมาณไวรัสในตัวก็อยู่ระดับสูงพอๆ กับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้นต่อให้ออกกฎเกณฑ์ว่า บุคลากรต้องฉีดวัคซีน หรือลูกค้าต้องฉีดวัคซีนครบ ก็ไม่สามารถการันตีเรื่องความปลอดภัยทั้งต่อบุคลากรที่ทำงานและประชาชนที่มาใช้บริการได้ มีโอกาสติด โอกาสป่วย โอกาสตายได้ทั้งนั้น
ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร...แต่กิจการอื่นที่มีความใกล้ชิดกัน ติดต่อกัน ก็ต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่มี สำคัญกว่านั้นคือ ผลกระทบที่จะเกิดเป็นลูกโซ่ คือ การติดเชื้อและนำไปแพร่ต่อเนื่องให้กับคนในที่ทำงานกันเอง และสมาชิกในครอบครัว
ถ้าเหมือนต่างประเทศ...จะมีโอกาสที่เราจะเห็นเคสติดเชื้อเพิ่มขึ้นภายใน 41-100 วัน และจำนวนการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นภายใน 61-100 วัน หลังประกาศนโยบายนั่งกินในร้านอาหาร แต่อาจเร็วกว่านั้น ถ้าเปิดหลายกิจการหลายกิจกรรมพร้อมกัน
ระลอกนี้ที่เจออยู่ยาวนาน คือระลอกสาม และยังไม่สามารถกดลงมาได้อย่างดีเพียงพอ ไตรมาสสุดท้ายนั้นน่าเป็นห่วง ขอให้วางแผนการใช้ชีวิตให้ดี ใช้ความรู้ มีสติ และป้องกันตัวอย่างต่อเนื่อง ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก
สุดท้ายแล้ว หากเปิดกิจการ กิจกรรม ด้วยความจำเป็นตามที่บอกไว้ข้างต้น ถ้าจะไปใช้บริการ ก็ต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่ ใช้เวลาให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องอาหารการกินหรือเครื่องดื่ม ยืนยันว่า"ซื้อกลับ"จะปลอดภัยที่สุด ควรเลี่ยงการนั่งกินดื่มในร้านอาหาร ศูนย์อาหาร หรือโรงอาหารครับ
ด้วยรักและห่วงใย
อ้างอิง
Wang CC et al. Airborne transmission of respiratory viruses. Science 27 Aug 2021:Vol. 373, Issue 6558, eabd9149.
©2018 CK News. All rights reserved.