วันที่ 25 ส.ค. 2564 มีรายงานว่า ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ นางบวรลักษณ์ พงษ์กฤษฎิ์ ผู้ใหญ่ที่เคารพของ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ คำมาเร็ว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหาจับ ได้เดินทางมาที่สภ.เมืองนครสวรรค์  เพื่อเยี่ยมและหารือเรื่องการประกันตัว

นางบวรลักษณ์ กล่าวว่า ตนเป็นภรรยาของตำรวจนายหนึ่ง ที่เคยประจำอยู่ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งต่อมาสามีประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ซึ่งเป็นตำรวจจบใหม่ในขณะนั้น ก็เป็น 1 ในคนที่แวะเวียนมาช่วยเหลือดูแล จึงทำให้สนิทสนมกัน และ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ก็ให้ความเคารพนับถือตัวเองเปรียบเสมือนแม่อีกคนนึง

เมื่อวานนี้ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ได้มาพบ ร้องไห้โฮ ก้มกราบเท้า พร้อมบอกว่า "แม่ ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว นายสั่งผม ไม่ทำก็ไม่ได้ ชีวิตตำรวจผมคงหมดแล้ว"

ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ได้เข้ามาหาตนแล้วบอกเครียดมาก อยากให้พาไปทำบุญ ตนถามว่าเครียดเรื่องอะไร เขาก็ไม่ยอมบอก จนมีคลิปหลุดออกมา ที่ผ่านมา ส.ต.ต.ปวีกรณ์ เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ย้ายมาประจำที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก็ได้ให้ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ เป็นคนขับรถส่วนตัว ซึ่งส.ต.ต.ปวีกรณ์ ไม่ได้อยากทำเลย เพราะว่าอยากทำด้านจราจรเหมือนเดิมมากกว่า แต่ก็ขัดอะไรไม่ได้ จำใจทำมาตลอด โดยส.ต.ต.ปวีกรณ์ ชอบระบายความในใจให้ฟังว่า พฤติกรรมของ ผู้กำกับโจ้ เป็นคนอารมณ์ร้อนมาก ไม่พอใจอะไรก็จะเซ็นสั่งย้ายห รือสั่งทำโทษ

ส.ต.ต.ปวีกรณ์ เคยขับรถให้ผู้กำกับโจ้และแฟนสาวไปที่กรุงเทพ และถนนไม่ดี ทางแฟนสาวก็ตะคอกและต่อว่าว่าขับรถภาษาอะไร ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ก็ได้ขอโทษไป คิดว่าเรื่องจะจบแต่พอกลับมาถึงที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ทางด้านพ่อของแฟนสาวผู้กำกับโจ้ ก็เรียกคุยว่ามีปัญหาอะไรกับลูกสาวเขาหรือเปล่า

ในวันเกิดเหตุ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ เล่าให้ฟังว่า เขากำลังเดินเข้าไปในห้องแล้วผู้กำกับโจ้ก็เรียกให้ไปช่วยจับ เขาก็ทำตามคำสั่งนายเท่านั้นตนจึงบอกกับ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ ว่า ให้พูดความจริงออกไปทั้งหมดโดยไม่ต้องกลัวอะไร

ครอบครัวของ ส.ต.ต.ปวีกรณ์ พ่อแม่เขาเป็นชาวนา อยู่ จ.พะเยา ตนเลยเป็นธุระในการจัดสรรเรื่องการประกันตัวให้ โดยวันนี้ได้นำหลักทรัพย์มาประกันตัวประมาณ 8-9 แสนบาท