วันที่ 24 สิงหาคม 2564 นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงกรณี ที่มีผู้ใจบุญเป็นคนไทย ซึ่งมีสามีเป็นนักธุรกิจอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ได้มอบเงินจำนวน 20 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลมกุฏคีรีวันเขาใหญ่ (ปากช่องนานา) เพื่อดำเนินการจัดหาวัคซีน ฉีดให้กับประชาชน ในพื้นที่ อบต.ขนงพระ เป็นพื้นที่แรก เนื่องจากผู้ใจบุญ เป็นคน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และมีญาติ พี่น้องอาศัยที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีและต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญรายนี้ที่บริจาคเงินเพื่อซื้อวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อบต.ขนงพระ อ.ปากช่อง
ผู้ว่าฯโคราชกล่าวว่า โดยขั้นตอนต่อไปอยู่ที่ อ.ปากช่อง และ อบต.ขนงพระ ที่จะต้องดำเนินการให้ตรงกับเป้าหมายของผู้ที่บริจาคเงิน อย่างโปร่งใส เท่าที่ตรวจสอบ ขณะนี้ได้มีการรวบรวมรายชื่อชาวบ้านในพื้นที่ ต.ขนงพระ เพื่อจัดทำทะเบียนบัญชีแล้ว และเมื่อได้วัคซีนมา ประชาชนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน ตามเป้าหมายของผู้บริจาค ที่ผ่านมาเรามีบทเรียนให้เห็นมาเยอะแล้วทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัดเกี่ยวกับการ สวมสิทธิ์ แอบอ้าง รับการฉีดวัคซีน ดังนั้น อบต.ขนงพระ และ อ.ปากช่องจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ต้องไม่มีคนนอกพื้นที่ สวมสิทธิ์เข้าไปรับการฉีดวัคซีน ตามที่ผู้บริจาคเงินต้องการซื้อวัคซีนให้กับประชาชน อบต.ขนงพระ ทั้งนี้ยังเองได้กำชับไปว่า จะต้องดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค บัญชีรายชื่อต้องชัดเจน ไม่มีรายชื่อผี ไม่มีการสวมสิทธิ์
นายกอบชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วัย 72 ปี วอล์กอินไปขอรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้กลายเป็นรับวัคซีนซิโนแวคถึง 3 เข็ม นั้น เรื่องนี้จากการพูดคุยตัวนายก อบต.หนองน้ำแดง ก็ยอมรับผิด ส่วนเจตนาที่กระทำลงไปนั้น ได้ให้เหตุผลว่าในการปฏิบัติหน้าที่ต้องพบเจอกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเป็นจำนวนมากจึงต้องการสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้เพิ่มสูงขึ้นเพื่อที่จะได้ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ส่วนเรื่องการดำเนินการต่อจากนี้ได้ให้ทางสาธารณสุขจังหวัดและปกครองจังหวัดดำเนินการพิจารณา หากมีความผิดก็ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการที่มี แต่นายก อบต.ท่านนี้ ก็ได้ยอมรับผิดทุกประการแล้ว จึงได้มีการตักเตือนห้ามกระทำการเช่นนี้อีก ทั้งนี้ประชาชนทุกคน ขณะนี้มีความต้องการที่จะสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับตนเองด้วยการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ทั้งนั้น แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรจะต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติ และปฏิบัติตามขั้นตอนในการรับการฉีดวัคฉีดที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด อีกทั้งระบบในการบริการฉีดวัคซีนอาจจะมีข้อผิดพลาด จึงทำให้เกิดจากคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตามจากนี้ไประบบอาจจะต้องมีการตรวจสอบประวัติผู้ที่มารับการฉีดวัคซีนให้ละเอียดมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการผิดพลาด นายกอบชัย กล่าว
©2018 CK News. All rights reserved.