จากการชุมนุมคาร์ม็อบทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหวหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ใน กทม.ที่มีการเคลื่อนขบวนรถไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และมีการปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน ก่อนที่ผู้ชุมนุมประกาศนัดหมายชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 7 สิงหาคมนั้น
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 9)
โดยระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะมีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้ง่าย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้ขยายออกไปเป็นวงกว้าง รัฐบาลจึงได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564 มีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม รวมทั้งได้ปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6) และข้อกำหนด คำสั่ง ประกาศ ที่เกี่ยวข้อง จึงให้ปฏิบัติดังนี้
1.ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2564 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2564 2.ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสช้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร 3.ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่มีการออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับใหม่ ให้ประกาศฉบับนี้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดฉบับใหม่ดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป
ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ศาลจังหวัดธัญบุรีได้ออกหมายจับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เเละนาย พรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า เเละเเกนนำผู้ชุมคนอื่นๆ จากกรณีที่พนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.คลองห้า ออกหมายจับในข้อหาฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น, ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน,ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงการแพร่โรคในพื้นที่ที่ประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุ ให้โรคติดต่ออันตรายหรือแพร่ระบาดออกไป,ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คนอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดปทุมธานี เรื่องมาตรการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
โดยหมายจับนี้ สืบเนื่องจากกรณีกิจกรรมวาดสี และ การเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำกลุ่มทะลุฟ้า นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ที่ถูกควบคุมตัว หน้ากองบังคับการตำรวจชายแดนภาค 1 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่ามา
©2018 CK News. All rights reserved.