วันที่ 30 ก.ค. 64 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานกับห้างสรรพสินค้า ทั้งซูเปอร์มาร์เกต ห้างค้าปลีกค้าส่ง ตลาดสดให้เพิ่มการสต็อกสินค้าอาหารสด เช่น ผัก  เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ รวมถึงข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง และของใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีปริมาณเพียงพอ รองรับกับความต้องการของประชาชนในช่วงที่มีการล็อกดาวน์  และตลาดสดหลายแห่งต้องปิดให้บริการหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก

นอกจากนี้ ผู้ผลิตสินค้าและกลุ่มผู้ค้าอาหารสด เช่น ผักสด เนื้อสัตว์ได้ปรับขั้นตอนการขนส่งสินค้าให้รวดเร็วขึ้น เช่น มีการให้ส่งตรงจากซัพพลายเออร์ไปที่จุดจำหน่ายสินค้าได้เล ยไม่ต้องผ่านตัวกลางอื่น รวมถึงทราบว่า ตลาดสดหลายแห่งเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว เชื่อว่าปัญหาอาหารสด ที่ประชาชนร้องเรียนว่าหาซื้ได้ยาก และราคาแพงขึ้น จะคลี่คลาย และมีจำหน่ายเพียงพอ

ขณะเดียวกัน กรมยังได้หารือกับสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและผู้ส่งออกไข่ไก่ เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้ปรับขึ้นราคาขายไข่ไก่ในช่วงนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ซึ่งสมาคมก็ยินดีให้ความร่วมมือตรึงราคาเดิมไว้ก่อน โดยไข่คละหน้าฟาร์ม ไม่เกินฟองละ 3.00-3.10 บาท ส่วนราคาขายปลีก จากการสำรวจในซูเปอร์มาร์เก็ต ไข่ไก่เบอร์ 3 ยังขายเฉลี่ยแผง (30 ฟอง) ละ 105 บาท แต่ถ้าเป็นร้านค้าส่งจะขายไม่เกินแผงละ 100 บาท ส่วนราคาเนื้อหมูยังไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใด

 

ส่วนกรณีที่ร้องเรียนว่ามีร้านค้าตามชุมชน หรือหมู่บ้านอ้างสถานการณ์ล็อกดาวน์ ปรับขึ้นราคาอาหารสด อาหารปรุงสำเร็จ และของใช้ จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนั้นน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรม ไปตรวจสอบแล้ว รวมถึงประสานให้พาณิชย์จังหวัด เร่งตรวจสอบด้วยเช่นกัน หากพบการค้ากำไรเกินควร หรือเกิดความปั่นป่วนด้านราคาสินค้า เช่น พ่อค้าคนกลางขายโก่งราคา จนทำให้ราคาสินค้าปั่นป่วน จะมีความผิด ตามมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเห็นเบาะแส สามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วนกรมโทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายทันที