วันที่ 17 ก.พ. 62 เวลา 09.00 น. บริเวณศูนย์ประชุมหนองบึก ชั้น 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม ถนนอภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทีมโดย นายเอกราช ช่างเหลา กรรมการยุทธศาสตร์พรรคฯ นายโกศล เหมพลชม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้สมัครทั้ง 4 เขต ประกอบด้วยเขต 1 นายธงทิพย์ชลิต แห่งสถิตย์ เขต 2 น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ หรือผึ้ง เขต 3 นพ.อลงกต มณีกาศ และเขต 4 นายชูกัน กุลวงษา ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงกับกลุ่มข้าราชการครู ที่ให้ความสนใจกว่า 700 คน จนเกือบล้นห้องประชุม

หลังมีการแนะนำตัวผู้สมัครทั้ง 4 เขตแล้ว นายธงทิพย์ชลิต เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นกล่าวปราศรัย ที่ผ่านมาสมัยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดนครพนม (สจ.ฯ) ทำหน้าที่ประธานสภาฯ ลงพื้นที่ไม่ขาดจึงรู้ว่าเกษตรกรเดือดร้อนจากปัญหาเรื่องไหน และต้องการอะไร หากได้รับเลือกเป็นผู้แทน จะนำปัญหาเหล่านั้นเสนอสภาพิจารณา จากนั้นก็เป็นคิวของ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์หรือผึ้ง หลานสาวคนสวยของ”บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ยึดอกยอมรับว่าตนไม่ใช่คนนครพนมโดยกำเนิด แต่มีความตั้งใจที่จะเสนอตัวเข้ามาทำงานเพื่อชาวจังหวัดนครพนม ในอดีตที่ผ่านมาคุณตา ร.อ.ชั้น ยงใจยุทธ เคยมาอยู่ที่นครพนม และคุณลุง (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) ก็เป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย มีคะแนนเสียงหนาแน่นในจังหวัดนครพนม เลือดครึ่งตัวในกายตนคือ ยงใจยุทธ

พร้อมกันนี้ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ได้ชูนโยบายโครงการมารดาประชารัฐ ที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นผู้เสนอแคมเปญดังกล่าว เพราะต้องการให้ความสำคัญทั้งแม่และเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงจะมีสุขภาพและสมองที่ดี มีการพัฒนาเจริญเติบโตในทุกๆ ด้าน โดยจะดูแลตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์ 1 เดือนแรก ไปจนกระทั่งคลอดเดือนละ 3,000 บาท รวมสูงสุด 27,000 บาท โดยจะจ่ายค่าคลอดอีกจำนวน 10,000 บาท และจะดูแลเด็กต่อไปจนถึงอายุ 6 ขวบ อีกเดือนละ 2,000 บาท เพราะจากการวิจัยพบว่าช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเจริญเติบโตของเด็ก คือตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึง 6 ปีแรก ถ้าช่วงเวลานี้เราดูแลเขาอย่างดี เขาจะเติบโตและมีพัฒนาการที่ดี รวมสูงสุด 144,000 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 181,000 บาทต่อเด็ก 1 คน หลังกล่าวจบเรียกเสียงปรบตีจากผู้ฟังการปราศรัยลั่นห้องประชุม

นพ.อลงกต กล่าวถึงสาเหตุการย้ายพรรคจากเพื่อแผ่นดิน เพราะเห็นว่านโยบายของ พปชร. ดีกว่าพรรคอื่น ตั้งแต่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ โดยก่อนหน้านี้ตัวเลขเศรษฐกิจน่าเป็นห่วง ท่านเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเข้าร่วมรัฐบาล 4 ปีมานี้ ตัวเลขเศรษฐกิจผงกหัวขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งประชาชนสามารถอ่านสถิติย้อนหลังในอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา แต่มีบางคนสร้างวาทะกรรมทำลายต่างๆ นาๆ เช่น พวกตนถูกดูดไป ทั้งที่อดีตพวกที่พูดนั้นมีประวัติศาสตร์บันทึกว่าถูกพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ดูดไปร่วมชายคาจนหมดพรรค

นายชูกัน เป็นผู้สมัครคนสุดท้ายที่ลุกมาเล่าประวัติ ตั้งแต่สมัยพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้าน เรียนจบแค่ชั้น ป.4 ก่อนจะดิ้นรนเรียนต่อจนจบปริญญาตรี เป็นผู้ใหญ่บ้านก็ได้รางวัลแหนบทองคำ หันมาทำงานการเมืองเป็น สมาชิกสภาจังหวัดนครพนม (สจ.ฯ) 8 ปี 2 สมัย ก็ทำหน้าที่อย่างดี ก่อนจะโดดลงสนามใหญ่ก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม ครั้งนี้อยากให้พวกคุณครูทั้งหลาย มองที่ตัวบุคคลว่าใครทำงานให้กับบ้านเมืองและจังหวัดนครพนมมากที่สุด พวกตนเข้ามาทำงานเพื่อลดความขัดแย้งไม่แบ่งสีเสื้อ และไม่หาเสียงโจมตีพรรคใด จึงได้เสียงปรบมือสนั่นห้องประชุม เพราะกลุ่มครูต้องการผู้สมัครหาเสียงอย่างสร้างสรรค์เช่นนี้