วันที่ 9 กรกฏาคม 2564 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีเกิดกระแสรัฐบาลเตรียมประกาศการล็อกดาวน์บางพื้นที่ 14 วันว่า กรมได้ประสานห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ให้จัดเตรียมสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็น เช่น ข้าวสารอาหารแห้ง อาหารกระป๋อง เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และเชื่อว่า สถานการณ์สินค้าขาดแคลนเพราะประชาชนแห่ซื้อกักตุนเหมือนการล็อกดาวน์ครั้งแรกน่าจะไม่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา ประชาชนมีประสบการณ์ในการล็อกดาวน์อยู่แล้ว  และน่าจะมีการทยอยซื้อ  

นอกจากนี้ ในเดือนกรกฏาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินโครงการรถโมบาย พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน โดยนำรถโมบาย บรรทุกสินค้าจำเป็น ในราคาประหยัด ตระเวนขายทั่วประเทศทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกในการซื้อสินค้าให้แก่ประชาชน และช่วยลดค่าครองชีพด้วย   

นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ และติดตามร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยได้เน้นย้ำให้ร้านค้าต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 เกี่ยวกับโครงการละครึ่ง 13 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบตามข้อร้องเรียน หากพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป   

ขอย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า แจ้งได้ที่สายด่วนกรม โทร. 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจริงจะดำเนินการคดีตามกฎหมาย โดยกรณีขายสินค้าราคาแพงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน  140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท