เมื่อเวลา 20.00 น. คืนวันที่ 5 ก.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างราชบุรี กว่า 70 นาย พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาพระราชทาน สภ.โพธาราม เข้ากู้ซากหลังคาโครงเหล็ก ของอาคารตลาดนัดผู้พันไพรวัน ข้างโรงพักโพธาราม ติดครองชลประทานเขตเทศบาลเมืองโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งได้รับความเสียหายทั้งหลัง หลังจากเมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 18.30 น. เกิดพายุงวงช้างม้วนเป็นเกลียวขนาดใหญ่พัดเข้าถล่มอาคารซึ่งเป็นโครงเหล็กมุงด้วยหลังคาเมทัลชีทขนาดใหญ่ ซึ่งพายุงวงช้างได้พัดถล่มหอบหลังคาหมุดเป็นเกลียงแบบถอนรากถอนโคนของเสาอาคารหลุดลอยแบบเหินฟ้าก่อนจะถล่มลงมา ทับรถยนต์เสียหาย 3 คัน และยังทับร้านจำหน่ายหมูสด และ ร้านเสื้อผ้าเสียหายทั้งหมด 

นอกจากนี้ยังพบมีผู้ติดภายในซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งร้านขายของในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ได้เร่งกูซากและนำผู้ทีได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลราชบุรีจำนวน 3 ราย โดย 1 รายได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยอาการปอดฉีก เนื่องจากคานเหล็กได้หล่นลงมาทับที่บริเวณหน้าผาก จนสลบก่อนจะกระแทกที่หน้าอกอย่างรุนแรง แพทย์โรงพยาบาลโพธารามเร่งช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ทราบต่อมาคือพ่อค้าจำหน่ายกุ้งเต้น ส่วนอีก 2 รายอาการปลอดภัย

จากการสอบถามนางสาย วงศ์พันธ์ อายุ 62 ปี ชาวอำเภอบ้านโป่ง ซึ่งเป็นแม่ค้าขายลูกชิ้น หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และรอดชีวิตออกมาจากซากอาคาร เล่าวินาทีพายุถล่มว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 18.30 น. ตอนนั้นตนกำลังนอนหลับอยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งจอดอยู่ภายในอาคาร และเปิดร้านจำหน่ายอาหารแบบแผงรอย โดยมีเพื่อร้านค้าอีก 5 ร้านด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีร้านที่ก่อเป็นห้องจำน่ายหมูสด และเสื้อผ้าอีก 2 ห้อง และวันนี้ไม่มีนัด จึงตั้งขายกันแค่ 5 ร้าน เท่านั้น ในขณะที่ตนหลับอยู่ได้ยินเสียงลมกระโชกแรง และอากาศมืดครึ้มจึงลืมตาขึ้นมาเห็นลมพายุดพัดแรง ตนก็ไม่กล้าที่จะออกไป 

จากนั้นลมได้หมุนเป็นเกลียว พัดเข้ามาถล่มอาคารที่พวกตนเองตั้งแผงขายของอยู่อย่างเต็มแรง จากนั้นได้พัดเอาหลังคาของอาคารหลุดเป็นชิ้นๆ เสาอาคารเริ่มหลุดและปลิวขึ้นหมุนตามลมพายุ และเสียววินาทีนั้นคานเหล็กก็พังหล่มลงมาทับรถยนต์ของตนเองที่หลบอยู่ในรถ ซึ่งตนก็ตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะตั้งสติและพยายามเปิดประตูรถและมุดออกมาจากซากอาคารและมายืนอยู่ที่บริเวณกลางถนน เห็นถึงสภาพความเสียหายของอาคารพังเสียหายยับเยิน ก่อนจะพยายามร้องให้คนช่วยเพราะมีเพื่อนพ่อค้าแม่ค้ายังติดอยู่ภายใน ซึ่งทราบคือ พ่อค้าจำหน่ายกุ้งเต้น ซึ่งมาขายด้วยกันทุกวัน โดนคานของอาคารหล่นลงมาตับที่บริเวณหน้าผากจนสลบ และ กระแทกที่บริเวณหน้าออก พอเจ้าหน้าที่มาถึงก็พยายามช่วยกันนำร่างไปส่งโรงพยาบาล

นางสาย เล่าต่อว่า ตั้งแต่ตนมาอยู่ที่นี่ไม่เคยเจอลมพายุแบบนี้เลย เป็นพายุงวงช้างเพราะเห็นแต่ในข่าวซึ่งมีความสูงและม้วนเป็นเกลียวขนาดใหญ่ สีดำครึ้มพัดมาต่อหน้าต่อตาจนพังเสียหายทั้งหมด อยู่มา 20 กว่าปีแล้ว เพิ่งจะมาเจอครั้งแรกวันนี้รอดมาได้ถือว่าโชคดีเหมือนถูกรางวัลที่ 1 แล้ว

ด้าน พ.อ.ไพรวัน เอี่ยมคะนา อายุ 65 ปี อดีตนายทหารนอกราชการ ชาวบ้านหมู่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เจ้าของตลาดดังกล่าว กล่าวว่า เหตุการณ์วันนี้ถือว่าร้านแรงที่สุด เพราะตลาดได้สร้างอาคารด้วยโครงเหล็กอย่างแข็งแรงและได้มาตรฐาน หลังคายึดอย่างดี แต่พอเจอพายุงวงช้างแบบนี้ถึงกับบอกได้อย่างเดียวว่าส่ายหัว ความเสียหายมูลค่าอีกกว่า 5 ล้านบาท โครงสร้างเราเพิ่งสร้างเสร็จไม่นานนี้เอง มาวันนี้เจอเหตุภัยธรรมชาติ ซึ่งตนทำตลาดนัดมาอยู่ตรงนี้หลาย 10 ปีแล้ว ไม่เคยเจอ พอมาเจอครั้งนี้ ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ถูก ก็ต้องรื้อถอนก่อน ตั้งหลักก่อนเพราะเราลงทุนทำไปเยอะ ส่วนความเสียหายอื่นอยู่ระหว่างการประเมิน

ส่วนการกู้ซากของอาคารที่พังถล่มลงมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างราชบุรี กว่า 70 นาย ได้นำอุปกรณ์แสงสว่างมาติดตั้ง พร้อมด้วยรถยก รถรางจูง มาทำการกู้รถยนต์ออกมาจากอาคาร พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบภายในเพื่อสำรวจหาบุคคลเพื่อให้แน่ชัดว่าไม่มีใครติดในซาก พร้อมกันนี้ได้ช่วยกันนำสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในอาหารห้องจำหน่ายหมูสด และ เสื้อผ้าออกมาจากซากความเสียหาย ซึ่งมีนายนพรัตน์ รัตนพาณิชย์ นายอำเภอโพธาราม พร้อมด้วย พต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี รักษาการ ผกก.สภ.โพธาราม ได้เข้าตรวจสอบบริเวณซากอาคารดังกล่าว พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งกันประชาชนไม่เข้ามาในพื้นที่เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่ความเสียหายอื่น ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนดูตามบ้านเรือนประชาชนพบว่า ที่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ ข้างธนาคาร ธกส.อ.โพธาราม กันซาดขนาดใหญ่ถูกพายุงวงช้างพัดพังถล่มลงมาทั้งแพงทับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ เบนซ์ ซีบอร์นเงิน 1 คัน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต