วันที่ 5 ก.ค. 64 มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ต้องกักตัวเอง ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข กรณีที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โควิด-19
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องการให้ สสว. ปรับรูปแบบการทำงานให้ดีขึ้นให้มากที่สุด ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และให้มีผลสัมฤทธิ์ตามห้วงระยะเวลา โดยวันนี้ต้องพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย พร้อมกับจะต้องปรับปรุงระบบ ระเบียบราชการต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์ชาติ บทบาทหน้าที่ของ สสว. ต้องมีงานบูรณาการเปิดช่องทางต่าง ๆ ให้คนเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ให้สอดประสานการทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
ทั้งนี้ ระดับของ SME ในวันนี้มี 4 ระดับที่แตกต่างกัน คือ 1.SME ที่ดีที่สามารถส่งเสริมไปต่างประเทศ 2.SME ระดับปานกลาง ที่ต้องส่งเสริมให้ดีขึ้น 3.SME ส่วนที่กำลังจะล้ม ที่หากมีศักยภาพต้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือ 4.SME ที่ล้มเหลว ซึ่งต้องรวบรวมข้อมูลของ SME ในส่วนนี้จากสภาหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อนำมาพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศไทย ส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนได้ก็เพราะ SME จึงขอให้เน้นช่วยผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ถึงแม้ว่าจะมีคนที่อยู่ในระบบภาษีจำนวนน้อยก็ตาม แต่ผู้มีรายได้น้อย แรงงาน คนตัวเล็กทั้งหมดที่อยู่ในระบบนี้ จะต้องได้รับการดูแล มีอาชีพและมีรายได้ประจำวัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น จะต้องหาแนวทางช่วยเหลือ SME ให้เข้าสู่ระบบ โดยหาเป้าหมายให้เจอว่า SME ที่จะช่วยเหลือนั้นอยู่ในกลุ่มใดบ้าง ต้องหาช่องทางการได้ข้อมูลของ SME ในแต่ละกลุ่ม ต้องนำข้อมูล SME ของแต่ละกระทรวงมาพิจารณา เพื่อนำไปสู่การสนับสนุนงานในแต่ละกระทรวง เพื่อเตรียมความพร้อมของ SME ในระดับปฏิบัติให้มีความพร้อม เพิ่มประสิทธิภาพของ SME และส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาต่อไปในอนาคต หากทำได้ดีและเข้มแข็ง SME จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยที่สุด
©2018 CK News. All rights reserved.