วันที่ 21 มิถุนายน 2564 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ให้ประเมินตนเองผ่านแบบประเมินตนเอง Thai Stop Covid Plus และ Thai Save Thai ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กรมอนามัย ได้พัฒนาขึ้น โดยแพลตฟอร์มได้ แนะนำด้านสาธารณสุข ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติงาน แนวทางการปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งผู้ประกอบการต้องประเมินตนเองอย่างน้อยทุกๆ 2 สัปดาห์ ขณะที่พนักงานก็ต้องประเมินตนเอง ผ่านแพลตฟอร์ม Thai Save Thai ก่อนเข้าโรงงาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้มีการแพร่เชื้อโควิด-19ในสถานประกอบการ
ท้ังนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร คัดเลือกโรงงานเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีจำนวนคนงานมากกว่า 200 คน ซึ่งมีจำนวน 278 โรงงาน จำแนกเป็นโรงงานที่มีคนงาน 200 – 500 คน จำนวน 206 โรง โรงงานที่มีคนงาน 500 – 1,000 คน จำนวน 40 โรง และโรงงานที่มีคนงานมากกว่า 1,000 คน จำนวน 32 โรง เป็นโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหารหรือแปรรูปอาหาร โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และโรงงานอื่นๆ
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายแรกที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับ กรุงเทพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ จำนวน 40 โรงงาน โดยคัดเลือกจากโรงงานที่มีความเสี่ยงสูง และโรงงานที่มีความแออัดในพื้นที่ปฏิบัติงานก่อน และเป็นโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับอาหาร หรือการแปรรูปอาหารทุกขนาด จำนวน 12 โรง และโรงงานที่มีความแออัดเนื่องจากมีจำนวนคนงานมากกว่า 1,000 คน จำนวน 28 แห่ง
นอกจากการทำแบบประเมินดังกล่าวแล้ว กรอ.ยังได้จัดทำคู่มือแนวปฏิบัติแผนรับมือโควิด-19 สำหรับสถานประกอบกิจการ ( BCP) เพื่อให้แต่ละโรงงานเตรียมรับมือและเตรียมความพร้อม ในการประคองกิจการให้สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ แม้ในยามวิกฤตหรือฉุกเฉิน ซ่ึงได้มีการกำหนดแนวทาง ดังนี้
1.จัดตั้งทีมบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ และจัดให้มีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 1 คน เป็นศูนย์กลางบริหารจัดการความต่อเนื่องของธุรกิจ
2.ระบุวิกฤติหรือเหตุฉุกเฉินและผลกระทบต่อสถานประกอบกิจการ อาทิ อาคารและสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยีและข้อมูลสำคัญ บุคลากรและทรัพยากรทางการเงิน และคู่ค้า/ผู้ให้บริการ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
3.วางกลยุทธ์ความต่อเนื่องทางธุรกิจเพื่อเป็นแนวทาง จัดหาและบริหารทรัพยากรให้มีความพร้อมเมื่อเกิดวิกฤต
4. ฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแผนบริหารความต่อเนื่อง โดยโรงงานอุตสาหกรรมควรฝึกซ้อมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้พนักงานมีความพร้อม อยู่เสมอ รวมถึงปรับปรุงแผนการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ
©2018 CK News. All rights reserved.