เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านอาม็อง หมู่ 13 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีการขุดพบไหโบราณโดยบังเอิญ 16 ใบ สภาพยังสมบูรณ์อยู่ และมีอีกหลายจำนวนที่ได้แตกเสียหายไปบ้างแล้ว คาดว่า อายุน่าจะราวประมาณมากกว่า 300 ปี จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินของ นางจรรยา รุ่งเรือง อายุ 48 ปี ที่ขุดทำเป็นโคกหนองนาโมเดล พบไหโบราณ ขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกัน ไหที่ใหญ่สุดกว้างประมาณ 30 ซม. ยาวประมาณ 50 ซม. ปากไหกว้างประมาณ 20 ซม. มีลักษณะเป็นรูปทรงรี มีสภาพแตกร้าว บางใบที่แตกไปแล้ว ภายในมีสิ่งของคล้ายเศษกระดูก บางใบก็มีเศษกระเบื้องเก่าอยู่ภายในไห

เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ครั้งแรกทำเป็นโคกหนองนาโมเดล ตอนขุดก็ไม่ได้เจออะไร พอทิ้งช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ พอดีฝนตกลงมา มีญาติที่มางานบุญเดินมาพบเลยมาบอกว่า เห็นเหมือนมีรอยไหแถวๆนี้ ก็เลยพากันเดินมาดู แล้วเอามีดมาแซะพบเป็นไห ตอนแรกพบแค่ใบเดียว แต่พอขุดแซะไปเรื่อยๆกลับพบอีกมากนับได้ 16 ใบ มีแบบเล็กแบบใหญ่คละกัน สภาพอายุน่าจะนานมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เพราะไม่รู้เลยว่าไหนี้อายุกี่ปีมาแล้ว 

ต่อมา เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรและเจ้าหน้าที่อำเภอเมืองสุรินทร์ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบมีสิ่งของและไหโบราณ เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก จึงได้แจ้งให้นางจรรยา ว่าให้เอาเชือกมากั้นบริเวณดังกล่าว เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ลงมาเพื่อตรวจสอบพร้อมทั้งเอาไปศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมา คาดว่าสิ่งของและไหที่มีอยู่ทั่วบริเวณนี้น่าจะเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ อายุน่าจะมากกว่าพันปีแน่นอน จึงห้ามประชาชนไปแตะต้องสิ่งของต่างๆในบริเวณที่พบ

ด้าน น.ส.พรเพ็ญ บุญญาทิพย์ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ภัณฑารักษ์ชำนาญการ กล่าวว่า ได้ลงมาตรวจดูโบราณวัตถุดังกล่าว พบเป็นภาชนะดินเผามีลักษณะเป็นมีฝาปิด เป็นลักษณะการทำพิธีกรรมการฝังศพของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอายุน่าจะราวประมาณ 1,000 ปีขึ้นไป และพบเครื่องปั้นดินเผาแบบเขมรร่วมด้วย หลังจากนี้จะได้แจ้งกลุ่มโบราณคดีจากสำนักศิลปากรที่ 2 เพื่อที่จะส่งนักโบราณคดีเพื่อจะทำทางโบราณคดีขุดกู้วัตถุ และบริเวณตรงนี้ ขอความร่วมมือประชาชนว่า พยายามรักษาสภาพโบราณวัตถุที่เป็นอยู่นี้ให้คงเดิมก่อน ไม่ควรที่จะเข้าไปรบกวนวัตถุหรือไปขุดเพิ่ม ตามที่ข้อมูลที่พบน่าจะเป็นแหล่งที่ค่อนข้างใหญ่ คาดว่าน่าเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างใหญ่หรือเป็นชุมชนเก่า