วันที่ 21 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รองเลขาธิการพรรค ในฐานะอดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ใช้แรงงาน พร้อมประกาศนโยบายเศรษฐกิจ ยกระดับความเป็นอยู่ประกันรายได้คนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 6ข้อ โดยเป็นการต่อยอดจาก10นโยบายการศึกษา ซึ่งจะเน้นการยกระดับชีวิตคนไทยประกอบด้วย
1.โครงการโฉนดสีฟ้า จัดทำเป็นโฉนดชุมชนจัดการตนเอง โดยมีการออก พ.ร.บ.โฉนดชุมชน เพื่อให้สิทธิในการจัดการชุมชนอย่างแท้จริง และยกระดับ สปก.ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนของรัฐโดยการกู้ผ่านธนาคารและตกทอดถึงลูกหลานได้ พร้อมเดินหน้าธนาคารที่ดิน เพิ่มที่ดินทำกินให้คนไทย เร่งออกโฉนดทันใจ สะสางโฉนดที่ดินที่ค้างท่อมานานที่มีเอกสิทธิ์ สค.1 และ นส.3 เพื่อออกสิทธิตามกฎหมายให้แล้วเสร็จ
2.จัดตั้งกองทุนน้ำชุมชน ให้เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี มีเงินทำแหล่งน้ำทุกหมู่บ้าน โดยรับการจัดสรรงบจากผู้เชี่ยวชาญแนะนำชาวบ้านจัดการแหล่งน้ำด้วยตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นที่ของรัฐ หากเป็นที่ของประชาชนแต่เหมาะสมที่จะทำสระน้ำ ก็สามารถเข้ามาร่วมโครงการ ซึ่งจะต้องปลดล็อคกฎระเบียบของราชการ และใช้ยางพาราในการทำสระน้ำ
3.ประกันรายได้เกษตรกร ให้ครอบคลุมพืชทุกชนิด สร้างความมั่นคงรายได้ให้เกษตรกรไทยทุกคนได้มีหลักประกันรายได้ขั้นต่ำการทำอาชีพเกษตรกรรม ข้าวไม่ต่ำกว่า เกวียนละ 10,000บาท
-ยางพารา ไม่ต่ำกว่า 60บาทต่อกิโลกรัม
-ปาล์ม 10บาทต่อกิโลกรัม
รวมถึงทำประกันภัยพืชผลคุ้มครองต้นทุนการผลิต
4.ประกันรายได้แรงงานไม่ต่ำกว่า 120,000ต่อปี แต่ถ้ามีรายได้ต่อเดือนเมื่อคำนวนแล้วไม่ถึงที่กำหนด รัฐบาลก็จะจ่ายเงินส่วนต่างให้
5.เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 ต่อเดือน และจะไปประบปรังโครงการเกี่ยวกับการออมเพื่อการชราภาพ
6.เบี้ยสวัสดิการผู้ยากไร้ 800บาทต่อเดือน ซึ่งโดยโอนตรงสมุดบัญชีผู้มีรายได้ต่ำกว่า 100,000ต่อปี ซึ่งทุกคนจะต้องเข้าระบบรายงานสถานะทางการเงินของตนเองทุกปี
โดยยืนยันว่านโยบายทั้ง6ข้อนี้จะทำได้ทันทีเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล พร้อมยืนยัน ประชาธิปัตย์ไม่เคยทำให้ประเทศเสียหาย ล้มละลาย และสามารถชี้แจงแหล่งเงินที่นำมาจัดทำนโยบาย และหลังจากนี้ พรรคฯจะนโยบายเศรษฐกิจยุคใหม่ ยกระดับประเทศไทย ก้าวไกลทันโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของผระเทศเพื่อนบ้านทั้งภาคการผลิตและการบริการ และรองรับการเปลี่ยนแปลงสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงลดคงามเหลื่อมล้ำ เนเนการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไทย
©2018 CK News. All rights reserved.