จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. มีมติรับทราบประกาศฯ บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ฉบับที่ 2 ซึ่งให้ใช้ยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร และยาจากผงฟ้าทะลายโจร สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย โดยเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายในการรับยาฟ้าทะลายโจร ประมาณ 5.26 หมื่นราย ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 15.78 ล้านบาท โดยทางสปสช.ได้กำหนดอัตราการจ่ายชดเชยแก่หน่วยบริการรายละ 300 บาท

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. กล่าวว่า การบรรจุยาฟ้าทะลายโจร เข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติ ทำให้สามารถเบิกจ่ายยาดังกล่าวให้กับผู้ใช้สิทธิประกันสุขภาพของประเทศได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นทางเลือกในการรักษาแล้ว ยังสนับสนุนให้เกิดการใช้ยาจากสมุนไพรเพิ่มขึ้น ตลอดจนเป็นการสนับสนุนภาคเศรษฐกิจอุตสาหกรรมยาจากสมุนไพรภายในประเทศ ลดการพึ่งพายาแผนปัจจุบันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศลงไปได้ในอีกทางหนึ่ง
 

ด้านนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาฟ้าทะลายโจร ได้รับการบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติอยู่แล้ว แต่ได้กำหนดข้อบ่งชี้เอาไว้ในการบรรเทาอาการของโรคหวัด เช่น เจ็บคอ น้ำมูกไหล มีไข้ เท่านั้น แต่ล่าสุดราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศให้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรได้ในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรงได้