เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564  นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่นายกฯ เผยข่าวดีความคืบหน้าอย่างมาก ใกล้บรรลุสัญญาสั่งจองวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จำนวน 5 ล้านโดส รวม 25 ล้านโดส  นอกจากนี้จะมีวัคซีนของซิโนแวคมาเพิ่มเติมอีก 8 ล้านโดส (รวมเป็น 33 ล้านโดส) เพื่อให้ครบ 100 ล้านโดส จากเดิมที่ยืนยันแล้วว่ามีวัคซีน 67.5 ล้านโดส (แอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส และซิโนแวค 6.5 ล้านโดส) โดยจะมีวัคซีนทางเลือกอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น ซิโนฟาร์ม โมเดอร์นา บารัค และสปุ๊กนิค-วี ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา และกระบวนการทางเอกสาร เห็นได้ว่ารัฐบาลเปิดกว้างสำหรับการจัดหาเพิ่มเติมของภาคเอกชนอีกด้วย

สำหรับปี 2565 ก็มีแผนจัดหาเพิ่มอีก 50 ล้านโดส รวมมีวัคซีนฟรีสำหรับคนไทย 150 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราจะมีวัคซีนที่ผลิตและพัฒนาต่อยอดเองภายในประเทศ ด้วยฝีมือคนไทย จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสยามไบโอไซเอนซ์ สามารถตอบสนองความต้องการวัคซีนในประเทศ และเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคนี้อีกด้วย ซึ่งรัฐบาลได้ลงทุนในเรื่องนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว เกือบ 3,000 ล้านบาท สะท้อนความมั่นคงด้านวัคซีนและด้านสาธารณสุขของประเทศ ที่รัฐบาลนี้ และนายกฯ ประยุทธ์ ได้วางยุทธศาสตร์ระยะยาวไว้

ภาพรวมการฉีดวัคซีนนั้น ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ก.พ. - 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถฉีดวัคซีนได้แล้ว 4,634,941 โดส และเมื่อวาน 7 มิ.ย. ซึ่งเป็นการระดมฉีดวัคซีนตามวาระแห่งชาติ โดยฉีดพร้อมกันทั้งประเทศอีก 416,847 โดส (รวม 5 ล้านกว่าโดส) นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค ยังได้ยืนยันแล้วว่า มีวัคซีนที่จะฉีดในเดือน มิ.ย.นี้ โดยมีแผนการฉีดในสัปดาห์ที่ 1-2 (ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป) รวม 3,540,000 โดส สัปดาห์ที่ 3 จำนวน 840,000 โดส และสัปดาห์ที่ 4 อีก 2,580,000 โดส รวมทั้งสิ้น 6 ล้านโดส ซึ่งเป็นตามแผนที่กำหนดไว้แต่แรก โดยจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาอีก หลายล้านโดส หลายยี่ห้อ และเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชนให้ครบ ตามที่กำหนด

ทั้งนี้ แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง แต่ภาพรวมตนเองมองว่าเป็นไปได้ด้วยดี มีพี่น้องประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน "หมอพร้อม" เข้ามาฉีดวัคซีน ณ จุดให้บริการมากกว่า 1,000 แห่ง ที่กระจายตัวทั่วประเทศ ด้วยความเชื่อมั่น และเต็มใจให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี ทุกอย่างราบรื่นดีด้วยการบริหารจัดการวัคซีนอย่างเป็นระบบของรัฐบาลนี้

นายเสกสกลยังขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่านายกฯ และรัฐบาล มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และจะทำอย่างเต็มที่ ให้ทุกคนได้เข้าถึงวัคซีนที่มีอยู่ เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และให้สถานการณ์โควิดคลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ยังขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในตัวนายกฯ และรัฐบาล ในการทำงาน ที่จะดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทั้งเรื่องสุขภาพและปากท้อง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นอกจากนี้หากการฉีดวัคซีนเป็นไปตามแผน และสถานการณ์การระบาดโควิดคลี่คลายลงได้มาก รัฐบาลจะได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ซึ่งทำให้พี่น้องประชาชนกลับมาใช้ชีวิตและค้าขายได้ตามปกติ เศรษฐกิจก็จะกลับมาดีขึ้นตามลำดับ