นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 มิ.ย.นั้น มั่นใจว่า พ.ร.ก.กู้เงินจะผ่านการพิจารณาจากสภาฯ แน่นอน โดยรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูเยียวยาประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พ.ร.ก.ดังกล่าวมีการกำหนดแผนการใช้เงินกู้อย่างชัดเจน
โดยการใช้จ่ายต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ภายใต้แผนงานหรือโครงการตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนด ซึ่งประกอบด้วย 3 แผนงาน ได้แก่
1.แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข การวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ
2.แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา หรือชดเชยให้แก่ประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 300,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ช่วยผู้ประกอบอาชีพและผู้ประกอบการ สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง
3. แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 170,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับแผนงาน/โครงการ เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค
นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียม ส.ส.จำนวน 35 คนชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงิน และไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.ดังกล่าว เพราะไม่มีแผนที่ชัดเจนว่ากู้ไปทำอะไรนั้น รัฐบาลไม่กังวลอะไร เพราะรัฐบาลมีแผนการใช้งบที่ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่าเพื่อประโยชน์ของประชาชน มีการกำหนดอย่างชัดเจนว่า เงินกู้ 5 แสนล้านบาทนี้จะนำไปใช้เพื่อการอื่นนอกจาก 3 แผนงานดังที่กล่าวมาแล้วไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ดังนั้น ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจในเจตนาของรัฐบาลเพื่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ และขอให้ประชาชนมั่นใจในความโปร่งใสในการใช้จ่ายเงินกู้ 5 แสนล้านบาท รวมถึงเจตนาของรัฐบาลในการใช้จ่ายเงินกู้นี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยไม่ควรค้านทุกเรื่อง เพราะทุกอย่างทำเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
©2018 CK News. All rights reserved.