ที่สภ.กกตูม นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น เดินทางไปเยี่ยมนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล สามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่
ป้าแต๋นนำข้าวผัดกะเพราทะเล น้ำดื่ม น้ำอัดลม กาแฟ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ของใช้ส่วนตัวเข้าเยี่ยมลุงพลและเปิดเผยว่า ลุงพลนอนหลับสบายดีไม่เครียดอะไรหลังจากนี้ก็ปล่อยให้ทนายดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ป้าแต๋น ยืนยันว่าลุงพลรู้ว่าชมพู่หายไปจากตอนที่เจอกันที่หน้าบ้านป้าถอน และไม่ได้มีการโทรศัพท์ไปแจ้งลุงพลเพราะที่บ้านมีโทรศัพท์เพียงแค่เครื่องเดียว ส่วนหลักฐานที่พบซึ่งมีเส้นผมหรือเส้นขนของน้องชมพู่ตกอยู่ในรถของลุงพล ก็เป็นไปตามปกติที่น้องชมพู่เคยขึ้นรถลุงพลกับป้าแต๋นบ่อยครั้ง ทุกครั้งที่ไปด้วยกัน น้องชมพู่ก็อยู่ในรถก็ไม่รู้ว่าขนและเส้นผมต่างๆของน้องชมพู่ตกอยู่ในรถเวลาใด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เส้นขนต่างๆจะหล่นในรถส่วนตัวก็เป็นตามปกติเหมือนทุกคน
"แต่วันที่เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นหลักฐานในรถช่วงนั้น พวกตนไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจทันที และเอาเอกสารให้เซ็นไม่ได้เป็นหมายค้น หรือแจ้งมาก่อนล่วงหน้าเพราะว่าเราเป็นชาวบ้านไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่อยู่ดีๆก็เข้ามาและขอตรวจค้นทันที ซึ่งตรงจุดนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ทุกอย่างอยู่ที่ทนายความให้ทนายความดำเนินการตามกฎหมาย และเชื่อมั่นในตัวทนายตั้ม" ป้าแต๋น กล่าว
ส่วนกรณีที่แม่น้องชมพู่ยื่นคัดค้านการประกันตัวก็เป็นสิทธิของเขา แต่เราพร้อมสู้เต็มที่เรายืนยันว่าบริสุทธิ์ เรามีหลักฐานต่อสู้ทุกอย่างกับข้อหาที่ตำรวจแจ้งมาและเรื่องประกันตัวก็ให้ทนายดำเนินการ แต่ทางเราได้เตรียมทั้งหลักฐานต่างๆ รวมทั้งเงินสดไปประกันตัวเรียบร้อยแล้ว
พ.ต.ท. สุริญา นภกรีกพแหง สารวัตรใหญ่ สภ.กกตูม กล่าวว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาลุงพลอยู่ในห้องขังโดยอาการปกติไม่มีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด ยังคงนอนหลับเหมือนผู้ต้องขังปกติทั่วไป ขณะที่เช้าวันนี้จะมีการสอบถามลุงพลซึ่งตกเป็นผู้ต้องขังว่าจะรับอาหารจากทางโรงพักที่มีบริการข้าวกล่อง และน้ำดื่มให้สามมื้อหรือไม่ หรือจะรับอาหารจากทางญาติ ซึ่งหากรับจากทางโรงพักก็จะเป็นข้าวกล่องอาหารตามสั่งและน้ำดื่ม
ขณะที่บรรยากาศตลอดคืนที่ผ่านมา ไม่มีกลุ่มเอฟซีหรือกลุ่มที่ชื่นชอบลุงพลมารอเยี่ยม ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ โดยกำหนดเวลาเยี่ยมตามปกติคือ 08.00 – 09.00 น. , 12.00 – 13.00 น. และ 16.00-17.00 น. และบุคคลเข้าเยี่ยม และนำอาหารหรือสิ่งของมาให้ ก็ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง เนื่องจากที่ สภ.กกตูม เป็นพื้นที่โรงพักขนาดเล็ก เจ้าหน้าที่จึงกั้นพื้นที่โดยรอบทางเข้าโรงพักไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถขึ้นไปยังตัวห้องขังที่อยู่ชั้นสองของตัวโรงพักได้ เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวาย
©2018 CK News. All rights reserved.