จากกรณีหนังสือคำสั่งของกระทรวงยุติธรรม โดย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ 184/2564 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 แห่งพระราชาบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 5 พ.ศ.2545
มีคำสั่งมอบหมายให้ นายกรีฑา แก้วเทศ ตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้ น.ส สมสกุล แอลเฟรด นักทัณฑวิทยาเชี่ยวชาญ สำนักพัฒนาพฤตินิสัย กรมราชทัณฑ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 64 พบว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำฉะเชิงเทรา ตรวจพบถึง 660 รายภายในวันเดียว ทำให้เรือนจำมีผู้ป่วยสะสมสูงถึง 1,218 ราย เป็นผู้ต้องขังชาย 1,130 ราย และผู้ต้องขังหญิง 88 ราย ขณะที่เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา มีผู้ต้องขังรวมทั้งหมด 2,693 คน
นอกจากนี้ ยังมีการส่งตัวผู้ต้องขังที่มีอาการหนักออกไปรักษานอกเรือนจำที่โรงพยาบาลพุทธโสธร จำนวน 8 ราย เป็นชาย 7 รายและหญิง 1 ราย ซึ่งผู้ป่วย 8 รายนี้ มีผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคถึง 3 ราย ทำให้วันนี้ภายในศูนย์ปฏิบัติการโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อคัดแยก คัดกรองผู้ต้องขังส่วนที่เหลืออีกครึ่งเรือนจำที่ยังไม่ติดเชื้อ พร้อมกันนี้ยังมีการวีดีโอคอนฟาเรนต์ ตามหอนอนผู้ป่วยทั้ง 13 ห้อง เพื่อสอบสวนอาการที่เกิดขึ้นจากผู้ต้องขังที่ติดเชื้อทั้งหมด
ขณะที่นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า สาเหตุที่พบผู้ป่วยในเรือนจำ สูงถึง 660 รายนั้น เกิดจากการที่ตนสั่งการให้มีการตรวจเชิงรุกสวอป ผู้ต้องขังทั้ง 2,693 ราย จากปกติที่มียอดติดเชื้อในเรือนจำวันละ 50-100 ราย ทุกวัน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจเชิงรุกเพื่อคัดกรองแยกผู้ป่วยและผู้ต้องขังที่ยังไม่ติดเชื้อออกจากกัน
©2018 CK News. All rights reserved.