นายปรีดี พนมยงค์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2443 (วันศุกร์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6 ร.ศ.119 เวลาบ่ายโมง) ณ บ้านเรือนแพ หน้าวัดพนมยงค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายเสียง และนางลูกจันทน์ พนมยงค์ และได้รับการศึกษาที่ดี หลังจากสำเร็จชั้นมัธยม 6 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้วก็เข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ประวัติการทำงานของนายปรีดี มีดังนี้
ปาฐกถาวันปรีดี พนมยงค์ จัดโดยสถาบันปรีดี พนมยงค์ เป็นกิจกรรมเพื่อระลึกถึงนายปรีดี โดยเชิญนักคิด นักวิชาการ มาพูดคุยเป็นองค์ปาฐกถา ในปี พ.ศ.2564 เป็นหัวข้อ "การต่อสู้เพื่อรัฐสวัสดิการ คือ การต่อสู้เพื่อความเสมอภาคของประชาชน" โดย ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ปาฐกถาที่ผ่านมา ได้แก่
นอกจากนี้ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังมอบโล่รางวัล “ปรีดี พนมยงค์” และทุน “ปาล พนมยงค์” แก่นักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ได้รับคัดเลือกในวันปรีดี พนมยงค์ 11 พฤษภาคม และเป็นวันแรกพบนักศึกษาใหม่ด้วย
มูลนิธิปรีดี พนมยงค์ ได้รับบริจาคที่ดินบริเวณเรือนแพบ้านเกิดนายปรีดี จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสร้างอนุสรณ์สถานปรีดี พนมยงค์ วางศิลาฤกษ์โดยพระราชนันทมุนี (ปัญญานันทภิกขุ) เมื่อ พ.ศ.2527 โดยผู้บริจาคเงินเพื่อซื้อเรือนแพทั้งสองหลังนั้น คือ ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ และผู้มีจิตศรัทธา เพื่อสร้างเป็นหอสมุด พิพิธภัณฑ์ สถานที่เจริญสมณธรรม และประชุมสัมมนา ภายในที่ดินประกอบด้วย เรือนแพบ้านเกิดจำลอง และอนุสาวรีย์หลัก 6 ประการ
อนุสาวรีย์หลัก 6 ประการ
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 คณะราษฎรได้ประกาศหลัก 6 ประการ เพื่อเป็นหลักปกครองประเทศ ได้แก่ เอกราช, ความปลอดภัย, เศรษฐกิจ, เสมอภาค, เสรีภาพ และการศึกษา อนุสาวรีย์ดังกล่าวจึงสร้างด้วยเสา 6 ต้น โดยแบ่งออกเป็นฝั่งละ 3 ต้น เหนือขึ้นไปเป็นคาน และหลังคาจารึกข้อความไว้ว่า
อนุสรณ์สถานนี้
สร้างขึ้นโดยความร่วมมือร่วมใจร่วมเสียสละ
ของศิษยานุศิษย์และประชาชนชาวไทย
ผู้ระลึกถึงคุณูปการของ ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์
และ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
(วาสนมหาเถระ)
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
ได้เสด็จเปิดอนุสรณ์สถานนี้
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2529
อนุสรณ์สถานอีกแห่งเพื่อรำลึกถึง นายปรีดี พนมยงค์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ตึกโดม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ จัดนิทรรศการแบ่งพื้นที่เป็น 6 ส่วน ได้แก่
หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายที่ปารีส นายปรีดี พนมยงค์ กลับมาทำงานเป็นผู้พิพากษา และเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนกฎหมาย ภายหลังเมื่อได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ก็มีความคิดริเริ่มสร้างมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกฎหมาย ผู้สำเร็จชั้นมัธยม ข้าราชการ ทนายความ ผู้แทนตำบล และครู เข้าเรียนได้ ปีแรกที่เปิดสอนมีผู้สมัครถึง 7,094 คน
นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง พ.ศ.2476 ภายหลังที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงมีพิธีเปิดมหาวิทยาลัยในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2477 จึงถือว่าวันนี้เป็นวันก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนายปรีดี พนมยงค์ ประกาศสุนทรพจน์ว่า "...มหาวิทยาลัยย่อมอุปมา ประดุจบ่อน้ำ บำบัดความกระหายของราษฎร ผู้สมัครแสวงหาความรู้ อันเป็นสิทธิและโอกาส ที่เขาควรมีควรได้ ตามหลักเสรีภาพของการศึกษา..."
มหาวิทยาลัยได้ซื้อที่ดินบริเวณท่าพระจันทร์ ซึ่งมาจากการเก็บค่าสมัครเรียน และสร้างตึกโดมอันเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและความเฉียบแหลม
คณะรัฐประหารในขณะนั้นยกเลิกตำแหน่ง “ผู้ประศาสน์” เปลี่ยนเป็น “อธิการบดี” เปลี่ยนหลักสูตรธรรมศาสตร์บัณฑิต เป็น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ.2495 และตัดคำว่า “การเมือง” ออกจากชื่อของมหาวิทยาลัย
นายป๋วย อึ๊งภากรณ์ อธิการบดีในขณะนั้น เห็นควรว่าจะต้องขยายพื้นที่การศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ จึงเจรจาขอซื้อที่ดินนิคมอุตสาหกรรมที่รังสิต 2,400 ไร่ เพื่อขยายมหาวิทยาลัย จึงเรียกว่า “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต” โดยดำรงความเป็นธรรมศาสตร์เช่นเดียวกับจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์
นายปรีดี พนมยงค์ เสียชีวิตที่ปารีส บนโต๊ะทำงาน ราว 11 โมง ที่บ้านอองโตนี กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2526 ด้วยวัย 82 ปี
ก่อนเสียชีวิต นายปรีดี พนมยงค์ เขียนเอกสารถึงธนาคารเป็นภาษาฝรั่งเศส และพูดคุยกับภรรยา ก่อนจะก้มหน้าแน่นิ่งไป อนวัช ศกุนตาภัย หลานชายซึ่งกำลังศึกษาแพทย์ปี 4 ที่มาพักอาศัยอยู่บ้านอองโตนี ช่วยพยุงร่างนายปรีดีไปที่เตียงและพยายามปั๊มหัวใจ CPR และหลังจากหน่วยกู้ชีพมาถึงก็พยายามช็อตไฟฟ้าบริเวณหน้าอก แต่ก็ไม่ได้ผล
เมื่อแพทย์ประจำตัวมาถึงก็ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย และกล่าวแก่บุตรเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า C'est une belle mort ! (เป็นการตายที่งดงาม)
ปัจจุบันบ้านอองโตนีที่ฝรั่งเศส ได้ขายไปแล้ว และเก้าอี้ทำงานตัวประวัติศาสตร์นี้ถูกเก็บไว้กับคุณอนวัช ศกุนตาภัย หลานชายฝั่งภรรยา ผู้ที่เคยปั๊มหัวใจคุณตาปรีดี พนมยงค์.
เรียบเรียง : สีวิกา ฉายาวรเดช
ภาพ : สถาบันปรีดี พนมยงค์
ที่มา :
©2018 CK News. All rights reserved.