วันที่ 7 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.สิงหา เฟื่องแก้ว สารวัตรสอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบพระสงฆ์ขับรถตู้ ภายในมีม้าอยู่ 1 ตัว โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธินขาออก ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสภ.คลองหลวงไปหยุดรถตรวจสอบบริเวณช่องทางด่วนถนนพหลขาออก ตรงข้ามไปรษณีย์สาขาคลองหลวง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี  ก่อนจะนำรถเข้าข้าง พบว่า เป็นรถตู้ยี่ห้ออีซูซุ สภาพเก่าภายในรถมีม้า 1 ตัว และหมูป่า 1 ตัว พร้อมกับของใช้พระสงฆ์ อาหารที่ประชาชนใส่บาตรมาให้โดยมี พระหนูที อายุ 73 ปี เป็นคนขับรถ

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนที่ขับรถสัญจรอยู่บนถนนพหลโยธินว่า พบพระสงฆ์ขับรถตู้ภายในรถตู้มีม้าอยู่ 1 ตัว จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าหยุดรถเพื่อตรวจสอบ โดยผู้ขับขี่แต่งกายพระสงฆ์แสดงบัตรประชาชนระบุชื่อ พระหนูที โดยเจ้าตัวกล่าวว่า มาจาก จ.สุพรรณบุรี และกำลังจะขับรถตู้ไปที่ จ.นครราชสีมา ส่วนรถตู้คันนี้เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ได้ต่อภาษี พ.ร.บ. พร้อมกับผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่รถยนต์ จึงเชิญไปให้พระครูวิจิตรอาภากร เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ตรวจสอบคุณสมบัติพระสงฆ์รูปนี้อีกครั้ง

 

ด้านพระครูวิจิตรอาภากร เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำพระหนูทีมาสอบสวนแล้วจึงได้ทำการสึกจากการเป็นพระสงฆ์กลับสู่ฆราวาส ส่วนใบสุทธิการเป็นพระสงฆ์ก็เป็นของเก่านานแล้ว ส่วนนายไพรรัตน์ รุ่งสว่าง ปศุสัตว์อำเภอคลองหลวง กล่าวว่า ทางด้านปศุสัตว์อำเภอคลองหลวงจะได้ทำการยึดม้าเอาไว้ก่อน เพราะไม่มีใบเคลื่อนย้ายม้า

โดยก่อนหน้านี้ พระหนูที เคยมีกรณีใช้สุนัขคือเจ้าสมหวัง สุนัขพันธุ์โกลเด้น ออกบิณฑบาตเพื่อเรียกความสงสารและทำให้ชาวบ้านสนใจที่จะทำบุญให้ จนเเจ้าสมหวังป่วยและตาย ทำให้พระรูปนี้ ถูกสังคมโซเชียลโจมตีหนัก เพราะถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์ จากนั้นในปี 2561 ก็ก่อเหตุอีก โดยปรากฏตัวที่เทศบาลเมืองมหาสารคาม ออกบิณฑบาตพร้อมกับสุนัข และแพะลากรถเข็น