วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 มีรายงานว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ 09.00-15.05 น. รวมประมาณ 6 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รายงานว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้งหมด 3 ชุด เพื่อดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต่างๆ ในการเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น เขตคลองเตย ซึ่งในระหว่างนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้หยิบกระดาษขึ้นมาอ่านให้ทุกคนในห้องฟังว่า มีนักข่าวถามถึงเรื่องส.ส.ร้องมาว่ามีปัญหา เรื่องการแจกบัตรคิวฉีดวัคซีน แต่เมื่ออ่านจบนายกฯ ก็ไม่ได้พูดอะไร และในห้องก็ไม่มีรัฐมนตรีคนใดพูดถึงเรื่องนี้
นอกจากนี้ทางนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์ุมีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เสนอแนะแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนเป็นการเฉพาะหน้านี้ เพื่อให้ที่ประชุมครม.พิจารณา จนกระทั่ง มีมติให้ช่วยเยียวยาในเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ คนละครึ่ง ม33 เรารักกัน รวมถึงการพิจารณากรณีกระทรวงการคลังเสนอแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย เพื่อให้รัฐมนตรีต่าง ๆ ได้เสนอความคิดเห็นว่า กระทรวงไหนคิดอย่างไร
โดยแนวทางหนึ่งคือการดึงการบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้ง เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องค้ำประกันเงินกู้สำหรับการฟื้นฟู โดยประเด็นนี้มีการนำเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และรัฐมนตรีหลายคนให้ความเห็นว่า หากจะให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้งต้องมีคำตอบให้กับประชาชน เพราะก่อนหน้านี้ครม. เคยมีมติให้การบินไทยออกจากการเป็นรัฐวิสาหกิจไปแล้ว สุดท้ายประเด็นนี้ยังไม่มีข้อสรุปโดยที่ประชุมให้กระทวงการคลัง และกระทรวงคมนาคมไปทำความเห็นเสนอกลับเข้ามาสู่ที่ประชุมครม.อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามในระหว่างการหารือถึงเรื่องการบินไทยนี้ ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำ แต่เราต้องมาแก้ไข"
ในช่วงท้ายของการประชุมครม. นายกฯ ได้กล่าวกับรัฐมนตรีทุกคน ว่า "ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องช่วยเหลือกัน ผมขอบคุณพรรคร่วมฯ ให้รักและสามัคคีกัน อย่ามีปัญหาซึ่งกันและกัน เพราะความรักสามัคคี จะทำให้เราผ่านพ้นปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้ไปได้"
©2018 CK News. All rights reserved.