วันที่ 20 เม.ย. 64 ที่ศาลาชีวะศิริ ฌาปนสถาน วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม บุตรและญาติของ นายพรสรรค์ สุภาพันธ์ อายุ 70 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ กรุงเทพมหานคร ได้นำเคลื่อนศพมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการฌาปนกิจอย่างเร่งด่วน โดยมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำคณะสงฆ์จัดพิธีการบังสุกุลและนำศพที่ถูกห่ออย่างมิดชิดเข้าสู่เตาเผา เป็นการเสร็จสิ้นพิธีเหมือนหลายศพที่มีการติดเชื้อและนำมาฌาปนกิจที่วัดไผ่ล้อมก่อนหน้า
นายสมพงษ์ อายุ 39 ปี หลานชายผู้ตายบอกว่า นายพรสวรรค์ นั้นเป็นลุงของตนเองได้เสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ โดยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้ตายนั้นมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจและมีอาการน้ำท่วมปอด ซึ่งสาเหตุติดว่า น่าจะติดมาจากรถแท็กซี่ เนื่องจากทุกวันผู้ตายจะต้องนั่งรถแท็กซี่มาทำแผลเรื้อรังที่โรงพยาบาลศิริราชทุกวัน ซึ่งเมื่อทราบผลทางภรรยาของคุณลุงก็ไม่สามารถมาจัดพิธีเผาศพได้เนื่องจากต้องกักตัว 14 วันแม้จะตรวจรอบแรกมีผลออกมาเป็นลบ ซึ่งตนเองได้ทราบข่าวว่าลุงติดเชื้อก็ได้รีบไปที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เพื่อดูอาการแต่ก็ไม่ทันแล้ว
นายสมพงษ์ บอกอีกว่าทางโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ได้แจ้งว่าทางวัดไผ่ล้อมพร้อมรับที่จะจัดดำเนินการในเรื่องการเผาศพที่มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้รีบมาประสานซึ่งก็ได้รับการตอบรับทันทีเพราะตนเองก็ไม่ทราบว่าศพที่ติดเชื้อนั้นจะสามารถนำกลับไปเผาที่บ้านเกิดหรือที่ใกล้ญาติได้หรือไม่เพราะเป็นการเอาศพติดเชื้อข้ามพื้นที่ ซึ่งทางหลวงพี่น้ำฝนตอบรับก็รีบมาดำเนินการแบบเร่งด่วนในทันที
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ศพนี้ อาตมาและคณะสงฆ์ก็ได้รับดำเนินการในการจัดการเช่นศพก่อนหน้า คือเน้นมาตรการด้านความปลอดภัยและทำพิธีให้ครบถ้วนตามหลักการแต่ลดเวลาลงไปหลายขั้นตอนซึ่งส่วนที่สำคัญคือการช่วยญาติโยมให้เป็นที่พึ่งสุดท้ายเพราะถือว่าเป็นกำลังใจ และช่วยญาติโยมในยามเกิดวิกฤติ แต่ที่สำคัญตอนนี้เริ่มมีผู้เสียชีวิตติดต่อเข้ามาขอทำพิธีเผามากขึ้นและจะเริ่มติดคิวกับศพที่เสียชีวิตที่ไม่ได้ติดเชื้อ ตรงนี้ในอนาคตหวั่นว่าจะเกิดปัญหาซึ่งหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายเรื่องนี้ย่อมเกิดปัญหาแน่นอน และมีญาติของผู้ตายก็อยากจะเผาศพคนที่รักในพื้นที่ ซึ่งสะดวกและลดค่าใช้จ่ายให้เขาได้ สถานที่นการเผาศพก็มีความสำคัญต่อรายจ่ายและจิตใจด้วย
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่าปัญหานี้อาตมาเล็งเห็นแล้วอยากจะเชิญชวนวัดต่างๆที่มีฌาปนสถาน หากมีญาติโยมที่มีญาติเสียชีวิตที่ชีวิตด้วยโรคโควิด-19 กรุณารับเผาศพพวกเขาเหล่านั้นด้วยเพราะไม่ได้มีอันตรายหรือน่ากลัวอย่างที่คิดศพที่ติดเชื้อจะถูกฆ่าเชื้อและบรรจุอย่างแน่นหนาถึง 3 ชั้นและพ่นน้าฆ่าเชื้ออีกครั้งก่อนลงโลง ซึ่งเมื่อมาถึงวัดไผ่ล้อมแล้วก็จะมีการฆ่าเชื้ออีกครั้งและนำเข้าสู่เตาทันทีเกล้ากระผมขอยืนยันกับวัดต่างๆ ว่าไม่อันตรายจริง
“หากวัดใดที่พร้อมจะสงเคราะห์ศพที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กราบขออาราธนาเรียนเชิญด้วยครับ หรือหากประสงค์จริงๆแต่ไม่มีความชำนาญทางวัดไผ่ล้อมพร้อมจะไปเป็นพี่เลี้ยงให้หรือเปิดคอร์สอบรมสำหรับการสงเคราะห์ญาติโยม ให้ก็ได้ทางวัดไผ่ล้อมก็ยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์ให้” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
©2018 CK News. All rights reserved.