ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล วัย 47 ปี นายกเทศมนตรีเมืองวังสะพุง 2 สมัย ดีกรีจบระดับปริญญาโทจาก มหาวิทยาลัย เมอร์เชอร์-แอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา เป็นนักธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ และรถยนต์ รายใหญ่ในภาคอีสาน มีร้านขายมากกว่า 30 สาขา ทั้งจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น และผู้ก่อตั้งทีมสโมสรฟุตบอลเมืองเลย ยูไนเต็ด พร้อมลงสนามใหญ่ตัวแทนพรรคเพื่อไทย เขต 1 จังหวัดเลย ชนแชมป์เก่าอดีต สส.ทั้งพรรคพลังประชารัฐ นายวันชัย บุษบา อดีต สส.เพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย นายทศพล สังขทรัพย์ อดีต สส. 7 สมัย อดีต สส.พรรคไทยรักไทย
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล เผยว่า ความจริงได้มีความสนใจในเรื่องการเมืองมาตั้งแต่เด็กๆ เรียนอยู่ในชั้นประถม ในขณะเมืองเลยที่เรียกว่าในยุคภูขี้เถ้า ได้มีการเลือกตั้งซ่อมหลังจากที่มี สส.เมืองเลย เครื่องบินตก ในตอนนั้นไปดูการนับคะแนน มีความคิดที่อยากเป็นผู้แทนมาตั้งแต่ในตอนนั้น พอโตขึ้นหลังจากที่ได้ร่ำเรียนไปอยู่ต่างประเทศ ก็ยังมีความสนใจการเมืองมาตลอด แต่หลังจากที่จบปริญญาโทกลับมา ก็มาทำธุรกิจครอบครัว ก็มาเห็นการเมืองไทย และมีการเก็บข้อมูลและติดตามการเมืองมาตลอด แม้ว่าครอบครัวจะไม่มีใครสนใจการเมืองเลยก็ตาม
เริ่มเล่นการเมืองมาในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งในตอนนั้นยังทำธุรกิจขายรถมอเตอร์ไซค์ และได้ขยายธุรกิจอยู่ที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น หลังจบก็มาทำธุรกิจได้ 12 ปี ในตอนนั้นการเมืองในเขตเทศบาลเมืองวังสะพุง ได้เกิดปัญหามีความขัดแย้งและรุนแรงเป็นอย่างมาก ผู้บริหารไม่สามารถทำงานได้ และได้เห็นความขัดแย้งการเมืองในบ้านเกิดในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น จึงได้คิดอยากสมัครมาเป็นนายกเทศบาลเสียเอง หลังจากคิดว่า ตนนั้นน่าจะมีความพร้อมบริหารให้ดีกว่าชุดที่บริหารในตอนนั้น ไม่ว่าการเรียนก็จบมาจากต่างประเทศ ได้เห็นการเมืองการพัฒนาบ้านเมืองของต่างประเทศมาก็มากมาย พร้อมทั้งจบมาก็มาทำธุรกิจจนสำเร็จและมีประสบการณ์การค้าขายมาอย่างดี จึงได้เริ่มตั้งกลุ่มการเมืองท้องถิ่นขึ้น และได้นำความคิดใหม่ๆมารวบรวมปัญหาต่างๆมาทำเป็นนโยบาย และเอาคนรุ่นใหม่มาร่วมทีม สมัครลงสมาชิกสภาเทศบาล ในปี พ.ศ. 2550 การเลือกตั้งในตอนนั้นก็ชนะขาดเกือบยกทีม และได้เป็นมาถึง 2 สมัย จากวันนั้นถึงวันนี้ได้เป็นนักการเมืองมาก็ 12 ปี พอดีเท่าๆกับทำธุรกิจก็ถือว่า พอมีประสบการณ์การบริหารงานท้องถิ่น งานราชการ ได้พอตัว
ในการเลือกตั้งสนามใหญ่ครั้งนี้ ตนเองมองเห็นว่า ถึงเวลาการเมืองที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าบ้านเมืองเปลี่ยนไปเยอะ โดยไม่ต้องพูดถึงโลกเปลี่ยน เอาแค่จังหวัดอื่น อย่างหนองคาย อุดรขอนแก่น เขายังจะมีรถไฟความเร็วสูงใช้แล้ว แต่เมืองเลยเราเองยังไม่ก้าวไปถึงไหนเลย บางจังหวัดจากเขาไม่มีอะไรเลย แต่กลายเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวด้านการกีฬาระดับโลกขึ้นมา เมืองเลยของเราเองทุกวันนี้เราอาศัยทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างเดียว ถ้าไม่มีคนผลักดันอย่างเข้มแข็งจริงๆโอกาสที่เราจะก้าวไปกว่านี้มันยาก ถ้าเราใช้ทรัพยากรเสื่อมหมดเราจะทำอย่างไร ครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่อยากจะอาสา ในเมื่อพ่อแม่พี่น้องอยู่แบบเดิมๆมาหลาย 10 ปี พร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนให้เราทันจังหวัดอื่นและนำหน้าจังหวัดอื่น จึงอยากจะอาสานำตรงนี้ และการเมืองในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา การเมืองของจังหวัดเลยอยู่อย่างนี้หมุนเวียนเปลี่ยนไปมาหน้าเดิมๆและยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอะไรเลย ทุกอย่างยังเหมือนเดิมในรอบ 30 ปี ครั้งนี้น่าถึงเวลาตอบโจทย์ได้แล้ว นายเลิศศักดิ์กล่าว
©2018 CK News. All rights reserved.