าน เลย์ ในวัย 22 ปี กลายเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชน จากคลิปวิดีโอการกล่าวสุนทรพจน์ในการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 รอบตัดสิน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา
สาระสำคัญของสุนทรพจน์ที่จบด้วยการร้องเพลง Heal the World ของอดีตราชาเพลงป๊อบ ไมเคิล แจ็คสัน พร้อมกับภาษามือเพื่อสื่อสารกับผู้พิการทางการได้ยิน คือ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในเมียนมากำลังถูกปราบปราบอย่างหนักจากกลุ่มที่ยึดอำนาจ ทำให้ชาวเมียนมาหลายร้อยคนถูกสังหาร เป็นที่มาของคำว่า “ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย”
อแมนด้า เปิดใจ หลังกรมสุขภาพจิตประกาศให้ยุติบทบาททูตด้านสุขภาพจิต
“ดอกไม้มาพร้อมก้อนอิฐ” เมื่อนางงามและการเมืองอยู่บนเวทีประกวด
นางงาม : คำตอบนอกเวทีมิสยูนิเวิร์ส “ความเป็นส่วนตัว” กับ “ความมั่นคง” อะไรสำคัญกว่ากัน
มิสยูนิเวิร์ส 2018: “อังเฆลา ปอนเซ” สตรีข้ามเพศผู้ชูคบเพลิงแห่งความเท่าเทียมในเวทีนางงามจักรวาล
วันนี้ เธอออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พร้อมด้วยณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานกองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลเพื่ออธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งบนเวทีประกวด บนท้องถนนในเมียนมาและอนาคตของเธอ
ขณะที่ณวัฒน์บอกว่าหากเธอมีความประสงค์จะขอลี้ภัย ทางองค์กรมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนลก็พร้อมจะให้การสนับสนุนด้านเอกสาร และขณะนี้เขากำลังยื่นเรื่องขอใบอนุญาตทำงานเพื่อให้ฮาน เลย์ สามารถทำงานในเมืองไทยได้อย่างถูกกฎหมาย
THAI NEWS PIX, ฉันอยากจะพูดตรงนี้ว่า นี่เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่การเมือง หากเรามองว่าเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน จะเห็นว่าเกี่ยวข้องกับความทุกข์ยากและความเป็นความตายของคน
ถาม: หลังจากกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีประกวด มีเสียงตอบรับอย่างไรบ้าง
ตอบ: ก่อนอื่นฉันต้องขอขอบคุณที่คนทั่วโลกให้การสนับสนุนล้นหลามด้วยการโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเมียนมา ฉันคิดว่าหลังจากที่ฉันได้กล่าวสุนทรพจน์ไปแล้ว ผู้คนรับรู้ถึงสถานการณ์ในเมียนมามากขึ้น ก่อนหน้านั้นอาจจะทราบเพียงว่ามีการก่อรัฐประหารเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่า มีผู้คนจำนวนมากถูกสังหารบนท้องถนน มีคนจำนวนเท่าไหร่ที่ต้องทนทุกข์กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
ถาม: สถานการณ์ทางบ้านที่เมียนมาเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้
ตอบ: ฉันเป็นห่วงพวกเขามาก แต่เมื่อติดต่อกับพวกเขาได้แล้ว ก็ทราบว่าคนที่บ้านยังคงปลอดภัยที่เมืองเมาะละแหม่ง
ถาม: คุณจะบอกคนที่คิดว่าสถานการณ์ในเมียนมาเป็นเพียงปัญหาภายในประเทศว่าอย่างไร
ตอบ: ฉันอยากจะพูดตรงนี้ว่า นี่เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่การเมือง หากเรามองว่าเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน จะเห็นว่าเกี่ยวข้องกับความทุกข์ยากและความเป็นความตายของคน
พม่า
ชาวเมียนมาร่ำไห้ หลังสูญเสียสมาชิกครอบครัวใน “วันนองเลือด” เมื่อ 27 มี.ค.
ถาม: อะไรทำให้ตัดสินใจออกมาพูดเรื่องนี้
ตอบ: ก่อนที่ฉันจะเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เพื่อร่วมการประกวดในครั้งนี้ ฉันได้ร่วมการประท้วงบนถนนร่วมกับชาวเมียนมาคนอื่น ๆ ทุกวัน ช่วงแรกพวกเราเรียกร้องให้ปล่อยตัว ออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ รวมทั้งประธานาธิบดี เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปตอนนี้เป้าหมายได้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยโดยมุ่งไปที่การเรียกร้องประชาธิปไตย ฉันหยุดประท้วงเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้นก่อนเดินทางมาไทยเพื่อเตรียมตัวประกวด
ฉันร้องไห้หนักมากบนเวทีประกวด เพราะมีคนจำนวนมากส่งข้อความมาถึงฉัน บอกว่าฉันเป็นความหวังเดียวของพวกเขา เหตุที่ฉันออกมาพูดแทนชาวเมียนมาทุกคนเพราะพวกเขาบอกฉันว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนเมียนมาจะไม่ยอมแพ้และจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป พวกเขาจะสู้อยู่บนท้องถนน และขอให้ฉันสู้ไปด้วยกันบนเวทีประกวด ฉันตอบไปว่าได้สิ ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้ ฉันจะขึ้นไปบนเวทีและเป็นกระบอกเสียงให้ชาวเมียนมา
2 เดือนหลังทำลายประชาธิปไตย กับจุดยืนประเทศไทย
รัฐประหารเมียนมา เทียบความเหมือนและความต่างกับการยึดอำนาจในไทย
กะเหรี่ยงเคเอ็นยูหวั่นเมียนมาโจมตีรอบใหญ่ กองทัพไทยแสดงภาพทหารช่วยผู้หนีภัยบาดเจ็บ
12 ชาติรุมประณาม หลังผู้ประท้วงกว่า 90 คน ถูกสังหารในวันกองทัพ
ขณะนี้ชาวเมียนมาทุกคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย ฉันเป็นห่วงประเทศของฉันและอนาคตของคนรุ่นหลัง ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถติดต่อกับนานาชาติได้ตอนนี้เพราะอยู่ต่างประเทศ กองทัพตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและห้ามประชาชนใช้โซเชียลมีเดีย ดังนั้นฉันจึงต้องเข้มแข็ง เพื่อครอบครัวของฉันและคนเมียนมา
ถาม: คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้หนีภัยในเมียนมาแล้วข้ามแดนมายังชายแดนไทย
ตอบ: ในฐานะที่เป็นพลเมืองเมียนมา ฉันอยากจะบอกว่า ได้โปรดช่วยเหลือพวกเขาเพราะว่าพวกเขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสันติภาพ สิ่งที่พูดได้ในตอนนี้คือมนุษยธรรม หากพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้วจะทำให้คุณรู้สึกและอยากช่วยเหลือพวกเขา
ถาม: อยากจะบอกอะไรกับรัฐบาลสหรัฐฯ บ้างหรือไม่
ตอบ: เราต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติอย่างเร่งด่วน [รัฐบาลสหรัฐฯ และยูเอ็น] บอกว่าพวกเขาต้องรอทำตามกระบวนการ แต่ทุกวันนี้ชาวเมียนมาจำนวนมากถูกสังหาร ทำไมพวกเขายังต้องรอ เมื่อไหร่พวกเขาถึงจะช่วยชาวเมียนมา ได้โปรดทำอะไรสักอย่างโดยทันที ฉันอยากบอกยูเอ็นด้วยว่าทำไมพวกคุณถึงมัวรีรอที่จะมีปฏิบัติการใด ๆ ออกมา ผู้คนจำนวนมากในเมียนมากำลังล้มตาย สิ่งที่สำคัญมากกว่าการรอทำตามกระบวนการก็คือนึกถึงมนุษยธรรมและลงมือปฏิบัติการในทันที
ถาม: มีความคิดที่จะยื่นเรื่องขอลี้ภัยหรือไม่
ตอบ: ฉันไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ฉันก็ยังปลอดภัย ไม่ขอคาดเดาไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร
©2018 CK News. All rights reserved.