วันที่ 30 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า ภายหลังคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เห็นชอบแนวทางการเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนมาจากประเทศต้นทางแล้ว สามารถมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 นำร่องที่จังหวัดภูเก็ตก่อนเป็นแห่งแรก ก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ที่มีความพร้อมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ปรับแผนดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวทันที หลังจากก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้รวบรวมข้อมูลความจำเป็น แต่ละหน่วยงานในสังกัด ที่ต้องดำเนินการเร่งฉีดวัคซีน โควิด-19 ให้ผู้ปฏิบัติงาน และความพร้อมในการจัดหาของแต่ละหน่วยงาน
ดังนั้น เมื่อรัฐบาลมีนโยบายกำหนดพื้นที่เป้าหมายชัดเจน เช่น เริ่มจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว ขอให้ลงไปตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม จำนวนเท่าใดในพื้นที่ ที่ต้องเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนตามนโยบายดังกล่าว
สำหรับการเตรียมฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะหน่วยงานที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ เมื่อมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนั้น เช่น สนามบินภูเก็ต ได้รับจัดสรรวัคซีน จากทางจังหวัด จำนวน 8,000 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรที่ท่สนามบินภูเก็ต ทั้งหมด ตั้งแต่ 1-8 เม.ย. 64 ที่ X-Terminal ซึ่งในวันนี้ (31 มี.ค. 64) เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการสนามบินภูเก็ต ได้มีการประชุม เตรียมพร้อมสำหรับแผนการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว
โดยในส่วนของแผนการฉีดวัคซีนให้ผู้ปฏิบัติงานของท่าอากาศยานในกำกับดูแลของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ให้สอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศท่องเที่ยวนั้น นอกจากท่าอากาศยานในส่วนภูมิภาคแล้วในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเกทเวย์สำคัญ ล่าสุดได้มีการเตรียมแผนฉีดวัดซินให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวนกว่า 34,100 คน โดยสุวรรณภูมิมีแผนที่จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครบทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม 2564
©2018 CK News. All rights reserved.