หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรม “รัตนโกเซิร์ฟ” ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นเมื่อ 28 มีนาคมที่ผ่านมา และได้ชวนคนรุ่นใหม่กล้าทำในสิ่งที่เชื่อ ไปให้สุดและอย่าหยุดสร้างสรรค์ กับคอนเซ็ปต์ “ใส่ชุดไทยไถสเก็ต” โดยชวนทุกคนมาเล่นเซิร์ฟสเก็ตไปบนเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทยรอบเกาะรัตนโกสินทร์โดยรอบกว่า 4 กิโลเมตร
หลังจากที่เจอกระแสดราม่าอย่างหนัก และเกิดคำถามว่าทำไมกิจกรรมดังกล่าวถึงจัดขึ้นได้ ทำไมถึงไม่ฝ่าฝืน พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาด ทั้ง ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวก-ให้ความดูแล ต่างจากจากกรณีที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมและเข้าจับกุมผู้ชุมนุมที่หมู่บ้านทะลุฟ้าเมื่อเช้ามืดและช่วงเย็นของวันเดียวกัน
โจอี้บอย-อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต หนึ่งในผู้จัดกิจกรรม ได้ออกมาชี้แจงผ่านโพสต์ และคอมเมนต์ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ตอบทุกคนนะครับกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมของทางกลุ่ม จัดขึ้นเพื่อสมาชิกทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กยันผู้ใหญ่ เป้าหมายของเราคือการออกกำลังกาย และกิจกรรมของครอบครัว เราจัดงานโดยการขออนุญาตซึ่งเราก็ปฏิบัติตามกฎในการจัดงาน ซึ่งงานนี้มีการตระเตรียมการวางแผนการจัดมานานระยะนึง เหมือนกับการจัดงานทั่วไปครับ มีหลายอย่างที่เราต้องปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างผลกระทบให้น้อยที่สุด
เช่นเราทุกคนที่มาร่วมงานต้องรีบเดินทางเพื่อที่จะจบงานภายใน 1 ชั่วโมงครับ อยากจะขอความเห็นใจเรื่องไม่เอากีฬาที่พวกเราเล่นกันไปคิดในมุมการเมืองจริงๆครับ เพราะในกลุ่มกีฬาที่เราเล่นก็มีคนที่มีความคิดหลากหลายแตกต่างทางการเมืองกันอยู่ร่วมกัน ส่วนประเด็นเกี่ยวกับโควิด เราพยายามปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดที่สุดจริงๆครับ หลายรูปที่เห็นผมและน้องๆไม่ได้ใส่ก็ตามเหตุผลที่เล่าให้ฟังข้างต้น”
พร้อมทั้งยืนยันว่ากิจกรรมที่ตนจัดนั้นไม่ใช่กิจกรรมที่แอบแฝงทางการเมืองแต่อย่างใด สำหรับคำถามที่ว่าทำไมมีกระทรวงและคนจากรัฐบาลมาร่วมงาน โจอี้บอยก็ได้ชี้แจงว่า “เฮียคือประชาชนตาดำๆเหมือนกับทุกคน จะขออนุญาตเป็นตัวแทนมาขอทำกิจกรรมบนพื้นที่สาธารณะ เฮียก็ต้องประสานไปกับทางผู้ที่จะช่วยเหลือเรื่องระเบียบการขอได้ เท่านั้นเอง” และในเรื่องที่ตนจัดกิจกรรมชนกับการชุมนุมาทางการเมืองนั้นมันเป็นเรื่องบังเอิญจนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เปรียบเทียบกันได้ ที่ไม่ยกเลิกก็เพราะว่าไม่อยากให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมคนอื่นผิดหวัง งานนี้ตนคิดว่าปฏิบัติตามระเบียบทางราชการได้เลยดำเนินการจัดขึ้น
และเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองนั้น ตนก็แอบห่วง เพราะตอนที่เฮียธร (ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ) ชวนคนออกมาไถนั้น ตนก็มีความกังวลว่าจะถูกหาว่าจัดกิจกรรมชนกัน แต่มันคือกีฬาครับที่ทุกคนชอบตรงกัน “คนที่มางานผมวันนี้ผมกล้าพูดเลยว่าคนที่มางานถึงแม้มีความชอบในการเมืองที่ต่างกันแต่เราอยู่ร่วมกันในความชอบกีฬาชนิดเดียวกัน” ก่อนจะกล่าวขอโทษและน้อมยอมรับความไม่พอใจที่เกิดขึ้น
ขอบคุณที่มา : Apisit Joeyboy Opasaim
©2018 CK News. All rights reserved.