ศรีสุวรรณ จ่อยื่นร้องกกต.วินิจฉัยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็น อสม. ชี้อาจขัด กม.


24 มี.ค. 2564, 10:29

ศรีสุวรรณ จ่อยื่นร้องกกต.วินิจฉัยผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นที่เป็น อสม. ชี้อาจขัด กม.




 24 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผย ในวันที่ 25 มีนาคม จะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน หรือ อสม. สามารถสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นได้หรือไม่ หลังพบมีข้อสงสัยกันมากเนื่องจากมีอสม. ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นกันเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ หรือบางรายอาจเป็นผู้ช่วยหาเสียง หรือทีมงานหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งก็มี

จึงมีข้อถกเถียงกันว่า อสม.เป็น เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ที่รับค่าป่วยการเป็นเงินเดือนประจำ ซึ่งอาจต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ในข้อ 12 ที่ว่า ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และข้อ 14 ที่ว่าไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการ ส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีคำวินิจฉัยอันเป็นที่สุดว่าเป็นเช่นไร



นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า อสม.มีระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน 2554 รองรับ และมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สิทธิได้รับเงินค่าป่วยการในการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน 2560 และ(ฉบับที่ 2) 2562 จากเงินงบประมาณแผ่นดิน โดยกำหนดให้เบิกจ่ายเป็นรายเดือนทุกเดือน ในอัตรา 1,000 บาทต่อคน ยังมีสิทธิที่จะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือในการ รักษาพยาบาล ค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษ จากโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการสาธารณสุขในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการดําเนินการตามบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบได้ มีสิทธิจะได้รับการเสนอชื่อเพื่อขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามหลักเกณฑ์ได้ และอื่นๆอีกมากมาย เฉกเช่นเดียวกันกับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วไป


นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อ หากให้ อสม.สามารถมีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ ก็ย่อมจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมได้ เนื่องจาก อสม.ใช้เงินแผ่นดินในการทำงานสร้างปฏิสัมพันธ์หรือหาเสียงกับชุมชนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาโดยตลอด ย่อมทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันในการเลือกตั้งในแต่ละท้องถิ่นได้











©2018 CK News. All rights reserved.