ภาคธุรกิจพัทยาแนะยกเลิกจัดเก็บภาษีป้ายแทนใช้ผ้าคลุมช่วยผู้ประกอบ


22 มี.ค. 2564, 09:13

ภาคธุรกิจพัทยาแนะยกเลิกจัดเก็บภาษีป้ายแทนใช้ผ้าคลุมช่วยผู้ประกอบ




ากกรณีที่มีผู้เฟซบุ๊กชื่อ Bhanuwat Jittivuthikarn ได้โพสต์ข้อความตำหนิการทำงานของเมืองพัทยา ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และไม่ต้องการที่จะเสียภาษีป้ายให้หาผ้ามาคลุมป้ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.นี้ พร้อมระบุว่าการออกคำสั่งดังกล่าวเป็นการกระทำที่ใจดำและ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนทำธุรกิจในพื้นที่

และในบางช่วงยังมีการต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาอย่างรุนแรงว่าแนวคิดดังกล่าวถือเป็นการที่ทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองท่องเที่ยว



โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นบุตรชายเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในโครงการวอล์คกิ้งสตรีทเมืองพัทยา ที่เคยประกาศปิดร้านจากพิษโควิด -19 และโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่มีการคอร์รัปชั่นจนส่งผลกระทบในวงกว้าง และกลายเป็นข่าวฮืฮฮาในช่วงหลังปีใหม่ 2564ที่ผ่านมานั้น


วันนี้ ( 22 มี.ค.)ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวแต่ไม่สามารถติดต่อได้โดยพบเพียง นางเปรมฤดี จิตติวุฒิการ เจ้าของกิจการร้านอาหาร “คิงส์ซีฟู้ด” ซึ่งเป็นมารดาของเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Bhanuwat Jittivuthikarn ที่บอกว่าการที่บุตรชายได้นำภาพและข้อความโพสต์ลงไปในโลกสังคมออนไลน์ถือเป็นเรื่องส่วนตัวในการแสดงออก

โดยเชื่อว่าบุตรชายน่าจะรู้สึกอึดอัดกับมาตรการที่เมืองพัทยากำหนด เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเพราะมองว่า การที่ เมืองพัทยา กำหนดให้ผู้ประกอบการนำผ้ามาคลุมป้ายไว้หากไม่ต้องการเสียภาษีป้ายน่าจะเป็นเจตนาดีที่และต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงที่ประสบภาวะวิกฤติ

“ แต่นโยบายนี้ไม่น่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวเท่าใดนัก เพราะหากผู้ประกอบการทำเช่นนี้เหมือนกันทุกรายก็จะทำให้ภาพของเมืองพัทยาโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่าง วอล์คกิ้งสตรีท กลายเป็นเหมือนเมืองร้างสร้างความห่อเหี่ยว ถดถอย และภาพลักษณ์ในด้านลบให้กับผู้พบเห็นมากกว่า ”

นางเปรมฤดี เจ้าของร้านอาหาร “คิงส์ซีฟู้ด” ยังให้ข้อแนะนำแก่เมืองพัทยาว่า ทางดีเมืองพัทยา ควรจะออกมาตรการผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเปิดกิจการแต่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเช่า ค่าแรง และอื่นๆด้วยการยกเลิกการจัดเก็บภาษีป้ายจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

“ กรณีนี้ได้รับการประสานจากกลุ่มธุรกิจหลายรายว่าจะเข้าพบนายกเมืองพัทยา เพื่อหาทางออกที่ชัดเจนเพราะทราบมาว่าขณะนี้ภาครัฐเองก็มีนโยบายที่จะเพิ่มการจัดเก็บค่าธรรมเนียมภาษีป้ายทั่วประเทศอีก 20 % ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม และยังทราบอีกว่าในวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินทางมาประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไม่เพียงแต่จะทำให้ภาคธุรกิจจำนวนมากต้องปิดกิจการจากการไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น ผลกระทบจากการดำเนินโครงการวางระบบสายไฟฟ้าลงดินที่มีการขุดเจาะถนนตลอดแนวโครงการ ยังทำให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ทั้งสถานบันเทิง บาร์เบียร์ ร้านจิวเวลรี่ ร้านอาหาร และอื่นๆที่เคยเฟื่องฟูและคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวก็ต้องพาปิดกิจการไปแล้วกว่า 70 %

 

 


คำที่เกี่ยวข้อง : #พัทยา   #โควิด-19  









©2018 CK News. All rights reserved.