วันนี้ ( 18 มี.ค.64 )  เพจเฟซบุ๊ก ทันโลกกับ Trader KP ได้แชร์ข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน โดยมีรายละเอียดดังนี้ สรุปผลจากการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เมื่อคืนนี้ #ที่นักลงทุนควรทราบ 
1️. ที่ประชุม FED มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0.00-0.25% (ตามที่ตลาดคาดไว้ข้อนี้ไม่มีเซอไพรส์แต่อย่างใด)
2. FED ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP ของสหรัฐในปี 2021 และ 2022 ขึ้นเป็น +6.5% และ +3.3% ตามลำดับ และคงการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวที่ระดับ +1.8%
3️. ทางด้าน Jerome Powell ประธาน FED ยังได้ย้ำอย่างชัดเจนว่า
"We're not going to act pre-emptively based on forecasts,"
หรือแปลได้ว่าถึงแม้นักลงทุนในตลาดพันธบัตรจะแห่กันเทขายพันธบัตรรัฐบาลเพราะกลัว #เงินเฟ้อ จน Bond Yield ไต่ตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว แต่ทางธนาคารกลางสหรัฐจะไม่นำปัจจัยนี้เข้ามาคำนึงในการพยายามกำหนดนโยบายดอกเบี้ย #และจะไม่ไหวตาดตลาด

4️. ทาง FED กำลังติดตามอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดและ #ยังเชื่อว่าจะไม่ได้รุนแรงอย่างที่ตลาดกลัว
FED คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ไว้ที่ 2.4% ส่วนปี 2022-2023 อยู่ที่ 2.0% และ 2.1% ตามลำดับ และยังคงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.0% ในขณะที่ตลาดเชื่อว่าเงินเฟ้ออาจไต่ได้สูงขึ้นกว่า 3% ทำให้พันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวที่ 1.5% นั้นไม่คุ้มค่า จึงแห่กันเทขาย
5️. ทางด้าน #อัตราการว่างงาน ในปี 2021 นี้ทาง FED คาดว่าจะทยอยปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆลงมาสู่ระดับ 4.5% ส่วนในปี 2022 และ 2023 จะลดลงต่อเนื่องลงมาเหลือ 3.9% และ 3.5% ตามลำดับ
6️.  Powell ย้ำชัดว่า FED จะยังคงมาตรการ QE ต่อไป โดยการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลอย่างน้อยเดือนละ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ FED จะคอยช่วยเสริมสภาพคล่องในตลาดจนกว่า FED จะเห็นว่าการจ้างงานในสหรัฐจะกระเตื้องขึ้นมาในระดับที่ FED พอใจ
7️. การย้ำชัดของ Powell และ FED ในครั้งนี้เป็นเสมือนการ #ต่อเวลาให้นักลงทุน ว่าไม่ว่าตลาดจะเป็นฟองสบู่หรือไม่ ตลาดนี้จะยังคงได้รับสภาพคล่องและลมอัดเข้ามาจาก FED อย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานักลงทุนกำลังกังวลเรื่องค่าเงินเฟ้อสูง จนหลายฝ่ายเชื่อว่า FED อาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่ากำหนดไหม ? และกลัวว่าเวลาที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและสภาพคล่องสูงจะหมดไปในเร็วๆนี้ไหม ? จนทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Tech นั้นโดนเทขายอย่างหนัก
8️. แต่สุดท้ายแล้วผลการประชุมของเฟดครั้งนี้ทำให้ #นักลงทุนกลับมามั่นใจมากขึ้น ดัชนี Dow Jones และ S&P500 ขึ้นทำสถิติ All Time High อีกครั้งเมื่อคืนนี้ ในขณะที่ดัชนีหุ้น Tech อย่าง Nasdaq ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

นักลงทุนยังคงควร #จับตามอง ความเคลื่อนไหวของ Bond Yield สหรัฐและผลของเงินอัดฉีกกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐอย่างใกล้ชิด
เพราะถึงแม้เทรนด์ตลาดหุ้นโดยรวมจะยังเป็นขาขึ้น แต่ด้วยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกับเช็คที่เริ่มทยอยส่งมาถึงมือประชาชนสหรัฐแล้ว อาจทำให้เกิด Sector Rotation อย่างต่อเนื่อง และอาจไม่ใช่หุ้นทุกกลุ่มที่จะได้รับแรงดันจากสถานการณ์เหล่านี้

 

เครดิต : ทันโลกกับ Trader KP