วันนี้ (20 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค ยังคงเดินรณรงค์ตามถนนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และแวะทักทายตามร้านค้าต่างๆ และในตลาดสดเทศบาล โดยมี นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสำราญ รอดเพชร นายอุทัย ยอดมณี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ร่วมออกเดินพบปะเชิญชวนประชาชน เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมทั้งกราบไหว้สิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองสุรินทร์ เช่น ศาลหลักเมือง อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ และเข้าสักการะหลวงพ่อพระชีว์ และรูปเหมือนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ภายในวัดบูรพาราม พระอารามหลวง โดยตลอดการเดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนเป็นสมาชิกพรรค มีชาวบ้านร้านค้าให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเดินทางไปยังอำเภอศีขรภูมิ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ และต่อไปยังจังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่ 3 เพื่อดำเนินโครงการเดินคารวะแผ่น ต่อเนื่องในพื้นที่ภาคอีสาน

นายสุเทพ กล่าวว่า การทำกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการเดินคารวะแผ่นดิน ตามโครงการเดิมที่ที่เคยทำ ครั้งนี้เป็นการเดินคารวะในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเริ่มต้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และมาที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นการเดินคารวะแผ่นดินสุรินทร์ มาคารวะพี่น้องชาวจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องชาวจังหวัดสุรินทร์เป็นอย่างดีมาก เป็นเมืองน่าอยู่ บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เชื่อมั่นในวันข้างหน้าจังหวัดสุรินทร์ จะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นจังหวัดชายแดน มีโอกาสที่จะทำธุระกิจการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี

ต่อกรณีการจัดโต๊ะอาหารระดมทุนของพรรคการเมืองนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนก็จัดมาก่อนแล้ว เป็นการจัดงานระดมทุน ซึ่งพรรคการเมืองทั้งหลายจำเป็นต้องใช้เงินในการส่งผู้สมัครลงแข่งขันในการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นพรรคจะต้องมีเงินให้สมาชิกสามารถทำงานได้ เงินจุดนี้เองสำคัญว่าพรรคนำมาจากไหน ซึ่งพรรคตนก็ทำอย่างตรงไปตรงมา ส่วนพรรคพลังประชารัฐจัดเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรที่แปลกพิสดาร

ส่วนกรณีการขับเคลื่อนพรรคการเมืองของแต่ละพรรค โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่มีนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั้น ตนไม่สนใจและไม่ให้ความสำคัญ เรื่องของพรรคเพื่อไทยก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่เขาจะกำกับกัน ตนไม่เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ก้าวก่าย ตนขอทำหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือพรรคการเมืองของประชาชน ที่เรียกว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย คือภารกิจที่ตนให้ความสำคัญ

กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนไม่มีอะไรที่จะกล่าวถึง ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้ว โดยส่วนตัวตนให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ตนมาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชาติไทย (รปช.) ทุกอย่างก็ต้องแล้วแต่พรรค ส่วนพี่น้องประชาชน ตนไม่มีอะไรที่จะต้องฝาก เพราะตนศรัทธาในพี่น้องประชาชน เชื่อมั่นในพี่น้องประชาชน และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนคาดหวังรอวันเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ และประชาชนเชื่อมั่นว่าหลังเลือกตั้งจะเห็นประเทศชาติเรียบร้อยไม่มีเหตุวุ่นวาย ใครแพ้ชนะไม่สำคัญประชาชนตัดสินแล้วก็จบ