นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยเพื่อประเมินถึงการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อคำร้องของรัฐสภา ให้ตีความอำนาจของรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อว่ามี 2 แนวทาง คือ แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทำไม่ได้ จะทำให้รัฐสภาไม่สามารถลงมติวาระสามได้ ดังนั้นรัฐสภาต้องมีทางอื่นเพื่อดำเนินการแก้ไข หรือ แนวทางทำได้ ต้องเป็นไปภายใต้เงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด รวมถึงการออกเสียงประชามติหลังวาระสามจะเพียงพอหรือไม่ หรือตอบโจทย์ได้หรือไม่ เชื่อว่ารัฐสภาจะลงมติวาระสาม ในวันที่ 17 มีนาคม นี้ได้
นายคำนูณ ยังกล่าวถึงการขอความเห็นไปยัง 4 นักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทำรัฐธรรมนูญ ได้แก่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.), นายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรธ., นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตที่ปรึกษากรธ. และนายบวร ศักดิ์อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) นั้น ตนเชื่อว่านายมีชัย จะมีความเห็นคล้อยตามไปกับความเห็นของนายอุดม ที่เคยให้ความเห็นต่อสาธารณะว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทำไม่ได้ ส่วนนายสมคิดเคยให้ความเห็นว่าทำได้ ขณะที่นายบวรศักดิ์นั้นตนไม่ขอก้าวล่วง ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าความเห็นของ 4 คนนั้นไม่มีผลต่อคำวินิจฉัย เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นและทิศทางของตนเอง ส่วนการขอความเห็นเพื่อประกอบความเห็นเท่านั้น
“วันที่ 11 มีนาคม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินเรื่องอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญจะทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้จะมีผลใหญ่ แต่ไม่หนักมาก เพราะทุกฝ่ายที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ต้องอยู่ภายใต้บังคับของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมรัฐบาลตอบคำถามได้ เพราะอยู่นอกเหนือจากการกำหนด หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าทำไม่ได้ ต้องเดินหน้าทางอื่น คือ แก้รายมาตรา อย่างไรก็ตามหากเดินหน้าไปถึงการลงมติวาระสาม ผลกระเทือนจะสูงกว่า” นายคำนูณ กล่าว
นายคำนูณ กล่าวถึงการลงมติของส.ว.ด้วยว่า สำหรับตนยังไม่พิจารณา เพราะความชัดเจนเกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ กำหนดให้เว้น 15 วัน เพื่อให้คิดเพราะตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างรอบคอบ รอบด้าน ทั้งนี้สิ่งที่ส.ว.บางคนแสดงความเห็นสามารถทำได้ แต่ขอจริงจะออกมาในนาทีสุดท้าย
©2018 CK News. All rights reserved.