วันที่ 10 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมคุมประพฤติได้จัดแบ่งผู้ถูกคุมประพฤติเป็น 5 กลุ่ม ตามประเภทคดี อันได้แก่ กลุ่ม 1.ผู้ถูกคุมประพฤติ จากคดียาเสพติดซึ่งมีมากถึง 80% ก็จะส่งเข้าอบรมและบำบัดยึดหลักผู้เสพเป็นผู้ป่วย  2. คดีกระทำผิดกฏหมายจราจร เมาแล้วขับ แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงมาก ปานกลาง และเสี่ยงน้อย ก็จะอบรมวินัยจราจร ดูแลสัมผัสเหยื่อ ที่สูญเสียจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ 3.กลุ่มคดีทำร้ายร่างกาย 4.กลุ่มคดีเศรษฐกิจ ซึ่งนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวช่อง 3 จะถูกจัดในกลุ่มนี้ โดยจะแบ่งโปรแกรมเป็นทำผิดเพราะโลภ อยากได้อยากมี ก็จะต้องเข้าอบรมให้รู้จักวิธีจัดการกับความอยากได้รู้จักขจัดความโลภ และแบ่งปัน

ในส่วนกลุ่มที่ 5 คือกระทำผิดเพราะจำเป็น ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ กลุ่มนี้เตรียมฝึกอาชีพสตรีทฟู้ดให้ และอีกกลุ่มที่ปัจจุบันมีมากขึ้น คือกลุ่มความผิดคดีการเมือง ที่ต้องจัดโปรแกรมสร้างวิธีคิด การเคารพกติกาสังคม โดยจะจัดโปรแกรมเพิ่มจริยธรรมคุณธรรม ให้อบรมเพิ่มสมาธิมากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีความรู้แต่อาจใจร้อน จึงต้องพยายามใส่ธรรมะเข้าไปให้แก้ปัญหาต่างๆ อย่างใจเย็นลง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่ได้พักโทษใส่กำไลอีเอ็ม และกรมฯ ส่งไปฝึกสมาธิที่วัดบางกรวย จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะมีผู้ถูกคุมประพฤติ  500,000 คน เป็นผู้ถูกคุมประพฤติใหม่ ปีละ 300,000 คน ที่เหลืออีก 200,000 คนเป็นผู้ถูกคุมประพฤติสะสม แต่ละคนถูกคุมประพฤติ 1-5 ปี การพัฒนาโปรแกรมที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมให้ผู้เคยกระทำผิด ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง