วันนี้ (6 ธ.ค. 64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 6 กุมภาพันธ์ 2564 ช่วงนี้เพิ่มในอัตราเร็ว 1 ล้านทุก ๆ 2 วัน สายพันธุ์สหราชอาณาจักรกำลังขยายตัวไปทั่วโลกทดแทนสายพันธุ์ G614 เพราะแพร่ได้เร็วกว่าราว 50% หรือ 1.5 เท่า คาดว่า จะทำให้เกิดระลอกที่สามในหลายต่อหลายประเทศตามมา แม้ตอนนี้ประเทศส่วนใหญ่ต่อสู้ระลอกสองยังไม่เสร็จสิ้นก็ตาม
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 529,629 คน รวมแล้วตอนนี้ 105,848,431 คน ตายเพิ่มอีก 16,082 คน ยอดตายรวม 2,306,399 คน อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 145,416 คน รวม 27,381,005 คน ตายเพิ่มอีก 4,344 คน ยอดตายรวม 470,150 คน อินเดีย ติดเพิ่ม 12,391 คน รวม 10,815,222 คน บราซิล ติดเพิ่ม 50,872 คน รวม 9,447,165 คน รัสเซีย ติดเพิ่ม 16,714 คน รวม 3,917,918 คน สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 19,114 คน รวม 3,911,573 คน ยอดตายรวมขณะนี้ 111,264 คน อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศอิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องแบบทรงตัว เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่กัมพูชา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ ล่าสุดเดนมาร์กทะลุสองแสนไปแล้ว ในขณะที่เกาหลีใต้ยอดรวมเกินแปดหมื่น ส่วนญี่ปุ่นกำลังจะแตะสี่แสนในวันนี้
ที่เห็นชัดเจนตอนนี้คือ อเมริกา เดนมาร์ก และเวียดนาม ที่กำลังปวดหัวกับสายพันธุ์สหราชอาณาจักรที่ทำให้ระบาดในประเทศอยู่ตอนนี้ ทางอเมริกาคาดว่าภายในฤดูใบไม้ผลิ จะเห็นสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่ครองการระบาดในประเทศทดแทนสายพันธุ์เดิม
ในขณะที่เดนมาร์กนั้นพบว่า สายพันธุ์สหราชอาณาจักรคิดเป็น 0.5% ของการติดเชื้อทั้งหมดในประเทศตอนช่วงต้นธันวาคมปีที่แล้ว แต่ตอนปลายมกราคมที่ผ่านมาพบว่าเพิ่มขึ้นเป็น 13% ทำให้คาดกันว่า ระลอกสามของเค้าจะมีโอกาสเกิดจากสายพันธุ์นี้ เวียดนามติดเชื้อเพิ่มหลักสิบมาติดต่อกัน 9 วัน ก็เพราะการระบาดของสายพันธุ์นี้เช่นกัน สำหรับบ้านเรา… คาดการณ์ไว้ให้ เผื่อเราทุกคนจะได้วางแผนจัดการชีวิตด้านต่าง ๆ
เนื่องจากเราติดปัญหาการตรวจที่ไม่ครอบคลุมเพียงพอ และไม่สามารถตรวจปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง เหมือนประเทศอื่นได้ ดังที่เคยนำเสนอข้อมูล ของต่างประเทศมาเปรียบเทียบให้เห็นไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้มีโอกาสที่คนติดเชื้อที่ไม่รู้ตัว หรือไม่ได้รับการตรวจนั้นมีอีกจำนวนไม่น้อย กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ศึกระลอกสองนี้จึงยังไม่ได้สิ้นสุดแม้ถัดจากนี้เราอาจเห็นจำนวนรายงานการติดเชื้อรายวันที่ลดลงกว่าเดิม แต่ขอให้ระลึกไว้ว่าเป็นผลจากเรื่องสมรรถนะการตรวจคัดกรองที่มีจำกัด ไม่สามารถแปลได้ว่าสถานการณ์ปลอดภัย
การระแวดระวังตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด จึงจำเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าหลังกลางมีนาคม จะเป็นตัวตัดสินว่า อัตราการติดเชื้อรายวันของเราจะมีโอกาสคงที่อยู่ประมาณไหน
จากประสบการณ์ของประเทศอื่น ๆ ที่ผ่านพ้นระลอกสองไปแล้ว หากอัตราการติดเชื้อต่อวันคงที่อยู่ประมาณหลักสิบอยู่ราว 2 สัปดาห์ เค้ามักจะเริ่มเห็นการระบาดระลอกถัดไปภายใน 10 สัปดาห์ หรือ 2.5 เดือน แต่หากเป็นหลักร้อย หรือหลักพัน หรือหลักหมื่น ระยะเวลาจะสั้นลงเรื่อย ๆ โดยลดลงประมาณ 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ในแต่ละหลักที่เพิ่มขึ้น นั่นแปลว่า โอกาสระบาดซ้ำจะเร็ว จะช้า ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการการระบาดครั้งนี้ให้ลดลงได้เพียงใดหากกดการระบาดให้เหลือน้อยมาก ๆ โอกาสระบาดซ้ำก็จะช้าลง
ตราบใดที่การระบาดยังลามรุนแรงทั่วโลก และยังไม่สามารถฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพให้แก่ประชากรในประเทศได้อย่างครอบคลุม โอกาสระบาดซ้ำย่อมมี เล่ามาให้พวกเราได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด จะได้มีสติ และใช้ความรู้ในการวางแผนดำเนินชีวิต ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ลดละเลี่ยงการกินดื่มในร้าน ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า ไม่ใช่เวลาเที่ยว สังสรรค์ พบปะกันเป็นกลุ่ม คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้หยุดเรียนหยุดงานแล้วรีบไปตรวจรักษา
©2018 CK News. All rights reserved.