เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (4 ก.พ.62) ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่เปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต ทั้งเขต 1 และเขต 2 ปรากฏว่า มีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ถึง 19 พรรคการเมือง ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้บางพรรคเขตเดียวบางพรรคส่งทั้ง 2 เขต โดยสมัครทั้ง 19 พรรค 32 คน และมีถึง 13 พรรคส่งครบทั้ง 2 เขต 6 พรรค ส่งเพียงเขตเดียว ถือว่ามากเป็นประวัติศาสตร์ที่เคยมีการรับสมัคร ส.ส.มามากสุดไม่ถึง 5-6 พรรค แต่ครั้งนี้วันนี้ถึง 19 พรรคการเมือง และที่ติดต่อมาแต่จะมาวันหลังอีก ประมาณ 5-6 พรรค จึงว่าในการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตมีพรรคการเมืองสนใจลงผู้สมัครแยกเก้าอี้ ส.ส.มากที่สุดมากเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่มีการเลือก ส.ส. มาในประเทศไทย และทั้งหมดต่างเดินทางมายังศาลาประชาคมตั้งแต่ก่อนเวลารับสมัครเลือกตั้งในเวลา 08.30 น. โดยมีผู้มาลงทะเบียนสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 จำนวน 17 ราย และเขต 2 จำนวน 15 ราย จาก 19 พรรค พร้อมด้วยผู้ให้การสนับสนุนและกองเชียร์ที่ขนกันมาให้กำลังใจจำนวนมาก ทางคณะกรรมการเลือกตั้งต้องระดมเจ้าหน้าที่จากทุกส่วนมารับมือในการสมัครครั้งนี้ โดยการรับสมัครมีไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. นี้ ตลอดช่วงบ่ายไม่มีผู้สมัครมาเพิ่มแต่อย่างใด โดยพรรคการเมืองใหญ่ 2 ค่ายส่งครบทั้ง 2 เขต เช่น พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของแชมป์เก่าที่ครอง ส.ส. มาทั้งอย่างยาวนานทั้ง 2 เขต ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาส่งครบทั้ง 2 เขต พรรคไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชานิยม พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชานิยม เป็นต้น หลังจากนั้น ผอ.เขตการเลือกตั้งทั้งเขต 1 และเขต 2 ได้ชี้แจงขั้นตอนการจับสลากหมายเลขผู้สมัครและขั้นตอนการรับสมัคร พร้อมทั้งจับหมายเลขผู้สมัคร โดยมีนายภคพงศ์ ทวิพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการการเลือกตั้ง เขต 1 และเขต 2 พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมสังเกตการณ์
สำหรับจังหวัดภูเก็ตนั้น มี ส.ส.ได้ 2 คน แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 2 เขต เขต 1 ประกอบด้วย พื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ตทั้งหมดยกเว้น ต.เกาะแก้ว ต.ราไวย์ และ ต.กะรน ส่วนเขต 2 ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของอำเภอถลาง อำเภอกะทู้ และ 3 ตำบลของอำเภอเมือง คือ ต.เกาะแก้ว ต.ราไวย์ และ ต.กะรน มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น จำนวน 294,712 ค
©2018 CK News. All rights reserved.