วันที่ 21 มกราคม ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวระหว่างแถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรค กทม. ผ่อนปรน 13 สถานที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมนี้ ว่า ในส่วนของกระบวนการสืบสวนโรค กทม.จะเร่งสอบสวนโรค และเปิดเผยไทม์ไลน์ให้ได้ทุกราย และพยายามให้ได้เร็วที่สุด มากที่สุด
ร.ต.อ.พงศกรกล่าวว่า สำหรับของการสอบโอเน็ต กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อยู่ระหว่างหาข้อสรุป อย่างไรก็ดี หากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีคำสั่งให้ผ่อนปรนมาตรการเพิ่มเติม กทม.พร้อมดำเนินการในทิศทางเดียวกัน
“กรณีที่ประชาชนเห็นว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง และประสงค์จะตรวจคัดกรอง ขอให้ทำแบบประเมินตนเองผ่านระบบ BKKCOVID-19 หากมีความเสี่ยง กทม.จะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อนัดทำการตรวจอีกครั้ง ทั้งนี้ กทม.ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมกันเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อตนเองและคนที่รัก และ กทม.จะพยายามให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงกับปกติโดยเร็วที่สุด” โฆษก กทม.กล่าว
ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมแนวโน้มผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพฯลดลง สอดคล้องกับผู้ป่วยทั้งประเทศ ที่ผ่านมา กทม.สามารถรับมือกับปัญหาเพื่อยุติการแพร่ระบาดของโรคให้เร็วที่สุด
นพ.วิชาญกล่าวว่า โดยมาตรการแรกคือ การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกเพื่อยุติการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และมาตรการการเฝ้าระวังเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดย กทม.และ สธ.ได้ร่วมกันเฝ้าระวัง ค้นหาจุดเสี่ยง สำรวจสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว สุ่มตรวจน้ำลายในพื้นที่ 5 เขต ประกอบด้วย บางขุนเทียน หนองแขม บางบอน บางแค และจอมทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยจำนวนมาก รวมทั้งเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อพื้นที่อื่นด้วย ซึ่งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ จะตรวจครบทั้งหมด
“สำหรับการตรวจเชิงรุกในสถานที่เสี่ยง กทม.และ สธ.ได้เร่งตรวจเชิงรุกฯ ไปแล้วกว่า 22,000 ราย อย่างไรก็ดี การระบาดของกรุงเทพฯ เป็นการระบาดต่อเนื่องจากพื้นที่อื่น ทั้งจากตลาด สถานบันเทิง ด้วยลักษณะของประชาชนในเมืองหลวงที่มีการเคลื่อนย้ายประชาชนมาก จึงพบการระบาดได้ประปราย แต่ยังไม่พบการระบาดใหญ่ที่เป็นวงกว้าง เช่น กรณี จ.สมุทรสาคร” นพ.วิชาญกล่าว
©2018 CK News. All rights reserved.