21 มกราคม 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ “โควิด-19” ผ่านทางเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” มีเนื้อหาดังนี้...
สถานการณ์ทั่วโลก 21 มกราคม 2564...
ทะลุ 97 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 738,302 คน รวมแล้วตอนนี้ 97,190,541 คน ตายเพิ่มอีก 18,647 คน ยอดตายรวม 2,079,642 คน
อเมริกา กำลังจะเกิน 25 ล้าน เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 200,795 คน รวม 24,958,030 คน ตายเพิ่มอีก 4,208 คน ยอดตายรวม 414,928 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 14,404 คน รวม 10,610,632 คน
บราซิล ติดเพิ่มถึง 114,614 คน รวม 8,638,249 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 21,152 คน รวม 3,633,952 คน
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 38,905 คน รวม 3,505,754 คน
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลักหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และจีน ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนไทย ฮ่องกง ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่นิวซีแลนด์ กัมพูชา และเวียดนามติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...สถานการณ์ในเมียนมาร์ เมื่อวานติดเพิ่มขึ้นอีก 478 คน ตายเพิ่มอีก 11 คน ตอนนี้ยอดรวม 135,721 คน ตายไป 2,997 คน อัตราตายตอนนี้ 2.2%...
ภาพรวมการระบาดทั่วโลกยังรุนแรง จะแตะหลักร้อยล้านก่อนสิ้นเดือนมกราคม รวมแล้วใช้เวลาเพียงปีเศษ ถือว่าแพร่อย่างรวดเร็วมาก ไวรัสสายพันธุ์ใหม่หลายตัวที่ทำให้แพร่ง่ายขึ้น ทั้งของสหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ บราซิล
สถานการณ์ของไทย หากมองตามเนื้อผ้า ข้อมูลจาก Ourworldindata อัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อเฉลี่ย 1.3% โดยส่งตรวจเฉลี่ย 76 ครั้งจะพบติดเชื้อ 1 คน ตัวเลขทั้งสองตัวนี้ใกล้เคียงกับเกาหลีใต้ แต่ไทยเราตรวจน้อยกว่าเค้ามาก หากคิดจำนวนที่ตรวจต่อประชากร 1,000 คนนั้น เราตรวจน้อยกว่าเค้า 5 เท่า ดังนั้นจำนวนการติดเชื้อในไทยเรานั้นจึงน่าจะมากกว่าที่รายงานในแต่ละวัน เพราะตรวจน้อยกว่า
ยิ่งหากการตรวจเชิงรุก เป็นไปในลักษณะ"สุ่มตรวจ" แทนที่จะตรวจอย่างครบถ้วนทุกคนในพื้นที่เสี่ยง จะด้วยปัญหาจากระดับนโยบาย การวางแผน หรือข้อจำกัดด้านทรัพยากรก็ตาม ย่อมทำให้มีโอกาสที่จะมีคนที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว จะมีอาการหรือไม่มีอาการ อยู่ในชุมชนทั่วไป ทั้งพื้นที่เสี่ยงและไม่เสี่ยง และอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อรับเชื้อกันไปอย่างต่อเนื่องดังที่เห็นในหลายประเทศทั่วโลก โดยระบาดซ้ำซากจะปะทุขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ประชาชนทุกคนจึงควรตระหนักถึงสถานการณ์การระบาดในประเทศที่น่าเป็นห่วง และจำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น โดยต้องป้องกันตัวเสมอ ใส่หน้ากาก ล้างมือ อยู่ห่างๆ จากคนอื่น
หากสังเกตเคสติดเชื้อในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา จะพบว่ามีการติดเชื้อในครอบครัว และจากการดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เคสต่างๆ ที่รายงานว่าตรวจพบนั้น ส่วนใหญ่เป็นการตรวจพบเพราะ"ประชาชน"คอยสังเกตอาการตนเองและสมาชิกในครอบครัว และเดินทางไปขอตรวจเอง ทั้งนี้มีหลายคนที่ปล่อยไว้นานหลายวันกว่าจะไปตรวจ
ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำไปพิจารณา ถึงเวลาแล้วที่ควรจะเน้นแคมเปญกระตุ้นเตือนให้ประชาชนคอยสังเกตอาการตนเอง ประเมินความเสี่ยงของตนเอง และรีบไปตรวจรักษา เพื่อจะได้รับการดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการปฏิบัติตัว ลดโอกาสแพร่เชื้อให้สมาชิกครอบครัวและเพื่อนฝูงหรือที่ทำงาน
นอกจากนี้วงการอาชีพต่างๆ ที่พบปะผู้คนจำนวนมากในแต่ละวัน จำเป็นต้องขันน็อตการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดง พิธีกร นักข่าว คนทำงานสายบันเทิง พ่อค้าแม่ค้า
เฟซชิลล์ไม่เพียงพอในการป้องกัน
ควรใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างระหว่างกัน
ไม่งั้นเราจะเห็นการระบาดวงกว้างได้อย่างแน่นอน
ด้วยรักต่อทุกคน
©2018 CK News. All rights reserved.