นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์กลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ Warong Dechgitvigrom เกี่ยวกับคดีจำนำข้าว แล้วยกฟ้อง ซึ่งอธิบายว่า
#ทำไมยกฟ้องจำนำข้าว
ผมได้รับโทรศัพท์จากนักข่าวสายเศรษฐกิจ ด้วยน้ำเสียงตกใจว่า ทำไมคดีจำนำข้าวที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง ศาลเพิ่งอ่านคำพิพากษา "ยกฟ้อง" ทั้งหมด
ผมเลยอธิบายไปว่า เป็นสิ่งที่ผมคาดไว้อยู่แล้ว และคิดว่า คดีพวกนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะยกฟ้อง ผมเลยอธิบายให้น้องเขาเข้าใจภาพรวมก่อนว่า โครงการรับจำนำข้าวนี้ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 เราเรียกว่าต้นน้ำ คือชาวนานำข้าวเปลือกมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวที่โรงสี ขั้นตอนนี้มีตัวละคร 3 ส่วนคือ ชาวนา โรงสี และเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่งมานั่งประจำ ( จะเป็น อคส. หรือ อตก. แล้วแต่แบ่งกันรับผิดชอบ ) ขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่ชาวนาถูกโกง โกงตาชั่ง โกงความชื้น โกงสิ่งเจือปน
ขั้นตอนที่ 2 เราเรียกว่ากลางน้ำ นั่นคือเอาข้าวเปลือกที่โรงสีรับไว้ มาสีเป็นข้าวสาร และส่งมาเก็บในคลังกลางที่รัฐบาลเช่า ขั้นตอนนี้มีตัวละคร 4 ส่วนคือ
2.1 โรงสี จะสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารมาส่งคลัง
2.2 เซอร์เวย์เยอร์ จะมีหน้าที่ตรวจคุณภาพข้าว ชนิดข้าว ว่าถูกต้องไหม คุณภาพดีไหม แล้วนำข้าวสารเข้าเก็บในคลัง
2.3 เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลคลัง จะเป็น อคส. หรือ อตก. แล้วแต่การแบ่งงาน
2.4 เจ้าของคลังที่ให้รัฐบาลเช่า
ผมบอกน้องนักข่าวไปว่า ในขั้นตอนนี้ ทั้งสี่ฝ่ายสมรู้ร่วมกันทุจริต เราจึงเห็นภาพการซุกข้าวสารเสื่อม ข้าวสารเหลือง หรือซุกนั่งร้าน โดยมีข้าวสารคุณภาพดีมาปิดไว้ ที่สำคัญคือ รัฐบาลในสมัยคุณยิ่งลักษณ์ ก็ไม่สนใจที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้ด้วย
ขั้นตอนที่ 3 เราเรียกว่าปลายน้ำ เป็นขั้นตอนที่รัฐบาล จะเป็นผู้ขายข้าวสาร เช่น จีทูจีเป็นต้น ขั้นตอนนี้ตัวละครที่เกี่ยวข้องจึงเป็นฝ่ายการเมือง ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี อธิบดีและข้าราชการระดับสูง บริษัทค้าข้าวเช่นเสี่ยเปี๋ยงและเครือข่าย
ที่ผ่านมา พวกเรานักการเมือง ตรวจสอบในขั้นตอนที่ 3 คือปลายน้ำ ซึ่งศาลอาญาคดีนักการเมืองตัดสินไปแล้ว และจำคุกกันถ้วนหน้า รวมทั้งต้องจ่ายค่าปรับ และฟ้องทางแพ่งยึดทรัพย์กันแล้ว คดีในขั้นตอนนี้ไม่ค่อยพลาดเพราะเป็นการตรวจสอบจากฝ่ายการเมือง ผ่านองค์กรอิสระคือ ปปช.
ส่วนที่น้องนักข่าวเขาโทรมาและตกใจว่า ทำไมยกฟ้องมากมาย เพราะขั้นตอนที่ 2 คือกลางน้ำนั้น ส่วนใหญ่ทั้งสี่ฝ่าย สมรู้ร่วมกันทุจริต การเขียนสำนวนจึงอ่อนมาก เพราะคนที่ต้องให้ปากคำ คือเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผลประโยชน์ร่วมกับเขา การให้ปากคำที่ผูกมัดจึงไม่รัดกุม ทำให้ง่ายต่อการยกฟ้อง และผมเชื่อว่า คดีส่วนใหญ่ก็จะยกฟ้อง
อย่างเช่นถ้าจำกันได้ มีนั่งร้านซุกในกองข้าว ข้าวสารหาย 98 ,500 กระสอบ ที่โกดังแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี แต่จับผู้ต้องหามาสองคน พร้อมรถกระบะ 1 คัน ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ที่คนสองคน จะขนข้าวสารร่วมแสนกระสอบ และต้องตั้งนั่งร้าน มีข้าวสารมาปิดด้วย สุดท้ายศาลก็ยกฟ้อง
นี่คือเวรกรรมของประเทศที่มีกลุ่มนักการเมืองชั่ว เมื่อมาเจอกับกลุ่มข้าราชการเลว ประเทศชาติก็ล่มจม ปัญหาของประเทศอยู่ตรงนี้ ต้องแก้ให้ตรงจุด ไม่ใช่เรื่องการปฏิรูปสถาบัน
©2018 CK News. All rights reserved.