เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ให้ควบคุมราคาหน้ากากอนามัย โดยหน้ากากอนามัยที่ผลิตในประเทศไทยให้จำหน่ายในราคาไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท และขอให้ผู้ประกอบการทุกประเภททำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงขายออนไลน์ด้วย ทั้งนี้ ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์จะต้องควบคุมร้านค้าหรือผู้โพสต์ขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มตนเอง ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ให้ขายเกินราคาหรือกระทำความผิด
นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในสอดส่องดูแลให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และต้องไม่ให้เกิดปัญหากับประชาชน พร้อมมอบกรมการค้าภายใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ทั้งป้องกันและป้องปรามการกระทำความผิดการจำหน่ายเกินราคาหรือกักตุน หากพบกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ประชาชนหากพบร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคา หรือถูกเอาเปรียบจากร้านค้าสามารถโทรแจ้งกรมการค้าภายในได้ที่ สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง ระบุชื่อร้าน พิกัดร้าน และราคาที่จำหน่าย เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบ หากพบจำหน่ายเกินราคาจริงก็จะถูกสอบสวนและดำเนินคดีตามกฏหมาย
"หากพบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาบนช่องทางออนไลน์ ให้บันทึกภาพหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน แล้วแจ้งไปที่ Facebook Fanpage: กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สคบ. หรือ Line: @wtf5716c ทั้งนี้ ความผิดกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับ 10,000 บาท และสำหรับกรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายอนุชา กล่าว
©2018 CK News. All rights reserved.