7 ธันวาคม 2563 รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับม็อบคณะราษฎร โดยใช้หลักการวิเคราะห์จากศาสตร์ Mass Action ชี้ให้ชาวโซเชียลเห็นว่า จุดใกล้จบของม็อบคณะราษฎรสังเกตได้จาก 7 ข้อดังนี้ ซึ่งระบุผ่านเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai ว่า
(1) ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ม็อบที่จุดติดแล้วทุกม็อบ ล้วนยุติการชุมนุมเองเพราะบรรลุเป้าหมายของแกนนำในการจัดชุมนุมในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าม็อบพันธมิตรฯ หรือม็อบ กปปส. หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าม็อบนั้นถูกทางการสลายการชุมนุมอย่างการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดง ซึ่งถึงแม้จะถูกสลายม็อบแต่ก็ไปชนะในการเลือกตั้งแทนจนได้เป็นรัฐบาล ... จึงเรียกได้ว่าบรรลุเป้าหมายของแกนนำในการจัดชุมนุมอยู่ดีแม้จะโดยอ้อมก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแนบแน่นทางการเมืองระหว่างแกนนำกับมวลชนที่เข้าร่วมม็อบ
(2) มีแต่ม็อบคณะราษฎรนี้แหละที่จุดติดแล้ว แต่กลับฝ่อลงเองในเวลาไม่กี่เดือน โดยที่ทางการแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
นี่เป็นปรากฏการณ์ม็อบครั้งแรกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ม็อบฝ่อเอง โดยแกนนำและผู้อยู่เบื้องหลังแกนนำไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้เลย มิหนำซ้ำยังเสียหายทางการเมืองอย่างหนักระดับป่นปี้ยับเยินในสายตาของสังคม
(3) สาเหตุหลักๆ มาจากการนำที่ขาดสติแบบสิ้นคิดและไร้ปัญญาของพวกแกนนำ... ที่เปิดเผยออกมาเองอย่างล่อนจ้อนในสายตาของผู้คนในสังคมในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา ที่พีคสุดๆ คือ รายการโทรทัศน์ที่อาจารย์อานนท์ "สั่งสอน" รุ้งที่เป็นหนึ่งในแกนนำออกหน้าจอโทรทัศน์ที่ผู้คนได้ดูกันทั้งประเทศ จนผู้คนจำนวนมากตาสว่างแล้วว่าสติปัญญาของแกนนำโง่กว่าตนเอง
(4) แต่สาเหตุจริงๆ ที่ม็อบคณะราษฎรล้มเหลวขนาดนี้ มาจากการที่ "ผู้อยู่เบื้องหลังแกนนำ" ทั้งหลายไม่ยอมและไม่กล้าออกมาร่วมเป็นร่วมตายกับพวกเด็กๆ หรือไม่กล้าเข้ามากุมการนำม็อบคณะราษฎรเสียเองต่างหาก
(5) คนอยู่เบื้องหลังอย่างบรรดาอาจารย์นักวิชาการปัญญาชนหัวก้าวหน้าที่แอบหนุนหลังม็อบคณะราษฎร ... คนพวกนี้ล้วนไม่มีประสบการณ์ในการทำม็อบ-คุมม็อบซึ่งเป็นทักษะพิเศษของนักปฏิวัติ คนพวกนี้ปลูกฝังความคิดให้แก่พวกเด็ก จนพวกเด็กยอมตายหรือยอมเสียอนาคตเพื่ออุดมการณ์ความคิดที่ตัวเองหลงเชื่ออย่างหัวปักหัวปำ แต่คนพวกนี้กลับแอบอยู่ข้างหลังอย่างคนขลาดและเห็นแก่ตัว ... คนพวกนี้ได้พิสูจน์ตนเอง (ผ่านการไม่ยอมร่วมหัวจมท้ายตกอยู่ในชะตาเดียวกันกับพวกแกนนำ) แล้วว่าไม่จริงใจต่อพวกเด็ก แค่หลอกใช้พวกเด็กเพื่อความสะใจทางความคิดของตัวเองเท่านั้น
(6) มวลชนคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมม็อบคณะราษฎรในช่วงแรกๆ มิใช่คนโง่หรือไร้สติปัญญา ส่วนใหญ่พวกเขาและพวกเธอมีความฉลาดโดยเฉลี่ยเหนือกว่าพวกแกนนำด้วยซ้ำ เพียงแต่ที่ผ่านมาเสพรับข้อมูลข้างเดียวและบิดเบือนมากไปหน่อยเท่านั้น แต่การต่อสู้ทางความคิดอย่างแหลมคมระหว่างฝ่ายล้มเจ้ากับฝ่ายพิทักษ์เจ้า ทำให้ความจริงและข้อเท็จจริงต่างๆ ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มวลชนคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดเป็นของตนเองและมีใจบริสุทธิ์เริ่มตาสว่างอย่างแท้จริง ... จึงเกิดปรากฏการณ์ผละม็อบหรือเปลี่ยนใจย้ายข้างขึ้นมามากมายในโลกออนไลน์ช่วงที่ผ่านมา
(7) ม็อบที่ทรงพลังที่สุดคือม็อบที่แกนนำกับมวลชนแนบแน่นเป็นหนึ่งเดียวในการมุ่งบรรลุเป้าหมายการชุมนุมที่ควรมีเพียงข้อเดียวและมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติในโลกแห่งความเป็นจริง ... นี่คือศาสตร์แห่ง Mass Action แกนนำคนไหนละเลยศาสตร์อันนี้ ย่อมล้มเหลวไม่เป็นท่า ดังตัวอย่างล่าสุดของม็อบคณะราษฎร
เครดิต : เฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai
©2018 CK News. All rights reserved.