วันที่ 10 พ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุน ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้ประกาศพร้อมชนกับผู้ชุมนุมที่เห็นต่าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าพร้อมชนที่ว่าคืออะไร แต่ถ้าหมายถึงการเผชิญหน้าพร้อมกระทบกระทั่งกัน คิดว่าไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา เพราะต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นได้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์และไม่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าข้างใคร แม้กระทั่งทำผิดกฎหมายรัฐบาลต้องดูแล เพราะไม่ต้องการให้ทุกคนเกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน และไม่ต้องการให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่เรื่องสำคัญที่สุดต้องมองอีกแง่ด้วย ในกรณีที่ชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกาย ตนเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยด้วยกัน
"คนต่างชาติ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเท่าไหร่ ถึงจะด้วยวาจาอะไรกันบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เข้าไปทำร้ายเขาแบบนี้ มันเป็นการเสียภาพลักษณ์ของประเทศไทย และของคนไทยทั้งหมด เราเคยพูดไปแล้วว่าความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองเป็นปกติวิถีทางประชาธิปไตย ก็อยู่ร่วมกันให้ได้สิ ไม่รู้สิ เราต้องอยู่ตรงกลางให้ได้รัฐบาลและฝ่ายกฎหมาย เราก็พยายามอดทนอดกลั้นในหลาย ๆ เรื่อง ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยที่เหนื่อยและเครียดเหมือนกัน เขาอดกลั้นเท่าไหร่ เขาทำเพื่อใคร ทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่หรือเปล่า มันต้องไปดูตรงนั้นด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการเสนอข่าวอะไรต่าง ๆ ตนไปห้ามอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ทำอย่างไรก็ตามต้องไม่ให้สังคมวุ่นวายมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน รวมถึงความรับผิดชอบของตนและคนไทยทั้งประเทศด้วย ซึ่งขอยืนยันว่าจะพยายามไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งโดยเด็ดขาดและขออย่าฝ่าฝืนกฎหมายจนเกินเลยหรือเลยเถิดไป
นายกฯ กล่าวอีกว่า ซึ่งหากไม่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่ก็จะมีความผิด โดยขณะนี้พยายามใช้มาตรการอยู่แล้ว ทั้งนี้ หลายอย่างก็อยู่ในกระบวนการของรัฐสภา และหลายอย่างก็อยู่ในกลไกของการแก้ปัญหา ถ้าทุกคนไม่รับอะไรกันเลยจะไปทางไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน
©2018 CK News. All rights reserved.