เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 63 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่อนุญาตให้ใช้โลโก้พรรคภูมิใจในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เนื่องจากกังวลกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 34 ที่กำหนดห้ามข้าราชการ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ส.ส. และ ส.ว.ไปช่วยหาเสียง แม้พรรคจะไม่ชอบแต่ต้องยึดหลักของกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศออกมาแล้ว

“มั่นใจว่าผู้สมัครท้องถิ่นแต่ละคนจะมีความสามารถ จึงส่งไปได้เพียงแค่กำลังใจ และเห็นว่าการให้ผู้สมัครลงในนามอิสระ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือก โดยไม่ต้องอิงพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเสนอให้ กกต.แก้ไขกฎหมายเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถเข้ามาช่วยหาเสียงในการเลือกตั้ง อบจ. แต่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้กังวล เพราะผู้สมัครที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพรรคจะมีความเข้มแข็งในตัวเอง” นายอนุทิน กล่าว

นอกจากนี้ นาย อนุทิน ยังกล่าวการตั้งคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ว่า พร้อมสนับสนุนทุกแนวทางที่จะทำให้ความขัดแย้งหมดไป ส่วนที่มีรายชื่ออดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา มาร่วมนั้น ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ มีความหวังดีต่อบ้านเมือง และเป็นผู้ใหญ่ที่มากบารมี จึงสนับสนุนให้กลุ่มคนเหล่านี้มาผลักดันให้บ้านเมืองเดินหน้า อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคาดหวังให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วมหาทางออกครั้งนี้ หากต้องการให้บ้านเมืองสงบและสามัคคี เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการเสนอให้พูดคุยกัน ดังนั้นทุกฝ่ายควรจะเข้าร่วม และขอยืนยันว่ารัฐบาลและรัฐสภาได้ฟังเสียงของทุกฝ่ายแล้วในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ ทั้งมีการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตามข้อเรียกร้อง

ส่วนการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับในวันที่ 17 พ.ย.นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนร่างของรัฐบาล คือ เดินหน้าแก้ไขมาตรา 256 และตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ารัฐสภาจะไม่รับร่างของฝ่ายค้านและร่างของไอลอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องยึดเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมว่าจะรับหลักการหรือไม่ และส่วนตัวไม่กังวลว่าหากร่างรัฐบาลได้รับความเห็นชอบเพียงร่างเดียว จะเกิดปัญหา รอบสุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติของประชาชนอยู่แล้ว จะทำให้ถูกใจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องด้วย