ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงนามความร่วมมือการให้โอกาสเด็กและเยาวชนที่ตั้งครรภ์ในสถานศึกษาได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสม เป็นไปตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

นายอนุทิน กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยพบปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อสังคมและตัววัยรุ่นเอง ไปจนถึงการตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านสุขภาพ ส่งผลให้ภาครัฐ ต้องเข้ามาแก้ไข โดยเฉพาะกรณีที่คุณแม่วัยใส ไม่ได้รับการดูแลเรื่องการศึกษา และการอนามันอย่างเหมาะสม 
 

ทั้งนี้ ทางกรมอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข ได้หาทางออกด้วยการเปิดโอกาสคุณแม่วัยใสในการกำหนดชีวิตด้วยตัวเอง หากต้องการเลี้ยงบุตรต่อไป ภาครัฐจะเข้าไปดูแลเรื่องการครรภ์ ไปจนถึงการคลอดบุตร รวมไปถึงกระทรวงศึกษาฯ จะให้โอกาสด้านการศึกษากับแม่และเด็ก แต่หากไม่ต้องการเก็บบุตรไว้ ภาครัฐจะมีทางเลือกอื่นๆ ตามมาส่วนในเรื่องการฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้เป็นบทบาทของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ปัญหาที่พบเห็นในสังคมคือการตีตราคุณแม่วัยใส หากสังคมยังมุ่งแต่ตำหนิ ว่ากล่าว ทับถม ก็เหมือนปิดโอกาสให้ผู้ประสบปัญหากลับสู่สังคม ซึ่งจะกระทบกับเด็กกำลังจะลืมตาดูโลกถึงเวลาแล้วที่สังคมจะมองมุมกลับ มองคุณแม่วัยใสอย่างเห็นใจ และเข้าใจ พร้อมทั้งช่วยกันประคับประคองเด็กที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ที่ต้องช่วยกันดูแลให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพในอนาคต