เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 9 ก.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ประธานสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมืองโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152

 

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า ถึงแม้พวกท่านจะอยู่กันน้อยในขณะนี้ แต่ตนต้องพูด รัฐบาลยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณในการทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน มีคำกล่าวเรื่องความเห็นของคนไทยทั้งประเทศ วันนี้มีการแยกแยะคนไทยทั้งประเทศตามช่วงอายุต่าง ๆ แล้ว พบว่ามีจำนวน 66.5 ล้านคน เราจำเป็นต้องทำงานให้สอดคล้องในการดูแลประชาชนทุกมาตรการที่มีอยู่

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การจะทำให้ทุกคนมีความสุขพอใจ ในจำนวนคนขนาดนี้ค่อนข้างทำได้ยาก แต่ไม่เกินความพยายามหากเราช่วยกัน ทั้งนี้ รัฐบาลมีความห่วงใยสถานการณ์ภายในประเทศอย่างที่สุด เราจะพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อดูแลแก้ไขทุกอย่างให้ฟื้นสู่ปกติโดยเร็ว แม้ว่าจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่เราก็พยายามทำด้วยความรอบคอบภายใต้งบประมาณที่จำกัด การกู้เงินถ้าจำเป็นก็ต้องกู้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่ต้อง การแก้ปัญหาโควิด-19 ถือว่าน่าพอใจ เราอย่ามองตัวเราเองแต่ต้องให้คนอื่นมองเรา และเราคงต้องร่วมมือกันให้ดียิ่งขึ้น

"ผมเคารพในกระบวนการรัฐสภามาตลอด ยืนยันจะทำทุกอย่างให้ชอบธรรม โปร่งใสมากที่สุด และขอว่าอย่ารังเกียจทหารมากนักเลย ทหารคือลูกหลานของท่าน หลายท่านเป็นทหารมาก่อน แต่คงไม่สำเร็จในการเป็นทหารเท่าไหร่ ไม่ใช่บอกแต่ทหารปฏิวัติ เขาทำอย่างอื่นตั้งหลายอย่าง ขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่าสร้างความเกลียดชังกันอีกเลย ให้ทหารเขาได้ภูมิใจในอาชีพของเขาบ้าง การปฏิรูปผมไม่ขัดข้อง แต่ในระบอบประชาธิปไตยก็มีความยุ่งยากอยู่บ้าง ส่วนเรื่องของเด็ก ผมไม่ได้มีปัญหากับเขา แต่มีคนที่ทำให้เขามีปัญหากับผมสักวันคงจะรู้เอง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว