สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “โคคา-โคล่า” บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการหั่นพนักงานลงกว่า 4,000 คนด้วยความสมัครใจภายใต้มาตรการช่วยเหลือของบริษัทในประเทศสหรัฐ, แคนาดาและเปอร์โต ริโก้ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ของจำนวนพนักงานกว่า 10,800 คน และมีพนักงานทั่วโลกกว่า 86,000 คน
บริษัทระบุว่าในช่วงวิกฤตโควิด-19 มีพนักงานกว่า 4,400 คนในเมืองแอตแลนต้านั้น ส่วนใหญ่ทำงานจากนอกบริษัทเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างดังกล่าวเกิดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 รวมทั้งในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมาผู้บริโภคหลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมรสหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มโค้กด้วย
นับเป็นไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในในฤดูใบไม้ผลิในประวัติศาสตร์ของบริษัท โคคา-โคล่า 134 ปี ผลกำไรลดลงเกือบหนึ่งในสามและรายได้ลดลงมากกว่าหนึ่งในสี่ในรอบสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 26 มิถุนายนจากปีก่อนหน้า
ขณะที่ยอดขายของบริษัทประมาณครึ่งหนึ่งจากร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, รายการการแข่งขันกีฬาและการชุมนุมสาธารณะขนาดใหญ่อื่น ๆ การปรับโครงสร้างล่าสุดอาจจะเป็นการปรับใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี
สำหรับแพคเกจการชดเชยของโคคา-โคล่า คาดว่าจะเป็นเงินสด, ความคุ้มครองด้านสุขภาพและสวัสดิการและจะนำไปสู่ค่าใช้จ่ายของ บริษัทจะใช้จ่ายเพื่อการนี้ 350 ล้านดอลลาร์ถึง 550 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีหน้า
โคคา-โคล่า ระบุว่า กำลังจะปรับเปลี่ยนกลุ่มธุรกิจ 17 กลุ่มเป็นหน่วยธุรกิจใหม่ 9 กลุ่มภายในภูมิศาสตร์ 4 แห่ง และยังคงเรียกว่า Global Ventures และ Bottling Investments และกำลังสร้างทีมผู้นำด้านการตลาด 5 กลุ่มเพื่อปรับขนาดความคิดอย่างรวดเร็วทั่วโลก
©2018 CK News. All rights reserved.