เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณี การชุมนุมของประชาชน นิสิต นักศึกษาที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันนี้ ว่า

 

เป็นสิทธิที่สามารถจะชุมนุมได้ แต่ขอให้นิสิต นักศึกษา ได้พิจารณาไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะออกมาชุมนุมว่า เกิดผลดีต่อประเทศหรือไม่ เพราะการชุมนุมไม่ได้ช่วยอะไรให้ประเทศดีขึ้น มีแต่จะก้าวถอยหลัง และอาจนำไปสู่การสร้างความแตกแยกของประเทศได้

 

นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พูดในรายการ “ก้าวหน้า Talk : คุณถาม เราตอบ” ในลักษณะที่กล่าวหารัฐบาลคุกคามประชาชน ไม่มีความจริงใจในการรับฟังนิสิต นักศึกษานั้น ต้องขอย้ำว่า หากการชุมนุมต่างๆมีความผิด ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายจะถูกกล่าวหาได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้คุกคามประชาชน

 

"สำหรับข้อเรียกร้องต่างๆ ของนิสิต นักศึกษา ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามรับฟังอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อที่จะเปิดเวทีรับฟังความเห็น ซึ่งนายธนาธร และนิสิต นักศึกษา ควรฟังเสียงรัฐบาลบ้าง ไม่ใช่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างเดียว และข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 17 สิงหาคม  พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะยื่นญัตติต่อสภาฯ ในการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ข้อเรียกร้องต่างๆ กำลังถูกดำเนินการตามกระบวนการในสภาฯ ไม่ได้มีใครมาขัดขวางการแก้ไข รธน.แต่อย่างไร ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน" นายสุภรณ์ กล่าว

นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงการที่นายธนาธร พยายามออกมาพูดเรื่องของการชุมนุมของนิสิต นักศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้กำลังใจและสนับสนุนการเคลื่อนไหว ว่า มีเบื้องหน้า เบื้องหลังหรือไม่ หรือเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตัวเองหรือไม่ที่อยากให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย จนเป็นเหตุให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยตนขอเตือนไว้ว่า หากคิดเช่นนั้นจริง ไม่เกิดผลดีต่อประเทศเป็นอย่างมาก และขณะนี้ประเทศอยู่ระหว่างการฟื้นฟูประเทศ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนเดินไปข้างหน้าให้ได้

 

 

"ส่วนการเคลื่อนไหวก้าวล่วงสถาบัน ให้ระวังคนไทยที่ปกป้องสถาบันฯ ทนไม่ไหว จะออกมามากมายเต็มแผ่นดิน จึงขอเตือนด้วยความห่วงใยบ้านเมือง ว่า หยุดพฤติกรรมการเคลื่อนไหวเป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง ทำไมไม่คิดสงสารห่วงใยประเทศชาติ ประชาชน การกระทำเช่นนี้ ไม่ได้มีจิตสำนึกของความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เลยสักนิด เสียดายที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย กลับมาคิดแต่จะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย เป็นที่น่าเสียใจกับพฤติกรรมเยี่ยงนี้เป็นที่สุด" นายสุภรณ์ กล่าว