เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับนายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และนายฌอน เค โอนีลล์ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ และคณะที่เข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อหารือในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

หลังจากนั้นนายไมเคิล ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีความไม่เข้าใจกันระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณประชาชนจีนว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโรนัลล์ ทรัมป์ เป็นรัฐบาลแรกที่มีมุมมองหรือทัศนคติต่อจีนตามที่เป็นจริงไม่ใช่อย่างที่อยากให้เป็น ก่อนหน้านี้เคยพูดเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ในอาเซียน ซึ่งพฤติกรรมของจีนที่มีคล้ายๆ กับสิ่งที่เกิดกับแม่น้ำโขงของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการไหลของน้ำและกระแสของน้ำ

“สิ่งที่สหรัฐอเมริกาต้องการ ไม่ใช่ต้องการให้ไทยเลือกข้าง ไม่ต้องการว่าไทยจะต้องอยู่กับสหรัฐอเมริกาหรือจีน ไม่ใช่ แต่สหรัฐเพียงแค่ต้องการชี้ให้เห็นพฤติกรรมต่างที่จีนผ่านมาว่ามีการดำเนินมาอย่างไร”

ส่วนหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่นั้น นายไมเคิล กล่าวว่า มีทั้งความร่วมมือที่ยาวนานกว่า 50 ปี ในเรื่องการต่อต้านยาเสพติด การเดินทางครั้งนี้ได้มีโอกาสขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปดูพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและพื้นที่แนวชายแดนร่วมกับ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. ได้เห็นความยากลำบากในการป้องกันและปรามปรามยาเสพติดเข้าประเทศ เพราะมีพื้นที่ยาวมากต้องอาศัยการลาดตระเวนและเข้าใจปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ นี่คือเหตุผลที่ต้องมีความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมาเพื่อจัดการแหล่งผลิตที่เป็นต้นเหตุของการนำเข้ายาเสพติดสู่ประเทศไทย สิ่งสำคัญคือการจัดการสกัดกั้นสารตั้งต้นที่ผลิตจากจีนและส่งต่อมายังเมียนมาและไทย เราต้องการจัดการต้นทางซึ่งเป็นห่วงโซ่นี้ให้ได้ จึงจะเห็นผล

นายไมเคิล กล่าวว่า มีการพูดถึงความท้าทายกรณีของฤดูกาลเผาป่าจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อลดปัญหานี้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากเนื่องจากกระทบต่อทุกคนและชุมชน ต้องมีการหาสมดุลในทุกด้าน ก่อนหน้านี้ได้มีการหรือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม รัฐบาลไทย และล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเปลี่ยนเทคนิคการทำไร่ทำนาใหม่ เพื่อการไม่เผาจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งอนาคตน่าจะมีหน่วยงานทางการเกษตรเข้ามาแก้ไขเร็วๆ นี้ และพร้อมสนับสนุนกฎหมาย พรบ.สะอาด อย่างเต็มที่ เพียงแต่พื้นที่ทำการเกษตรในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ แม้แต่ข้าวโพดเราก็มีเครื่องจักรที่สามารถเก็บเกี่ยวและกำจัดเศษวัสดุที่เหลือจากการเกษตรไปในครั้งเดียว ซึ่งต่างจากเมืองไทยที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ไม่ได้ แต่เราพร้อมสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“ผมยินดีสนับสนุนให้เกิดการกระจายการลงทุนมายังเชียงใหม่และภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อลดการพึ่งพาการท่องเที่ยวที่เป็นเหมือนตลาดหลักเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น จึงจะเข้ามาช่วยดูว่ารัฐบาลไทยจะสามารถปรับเปลี่ยนข้อกำหนดหรือนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนให้มากขึ้น ได้พูดคุยกับบีโอไอ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาวิธีการที่จะดึงดูดการลงทุนให้มากขึ้น แต่จะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมใดนั้นต้องอยู่ที่บริษัทที่จะเข้ามาลงทุนในเชียงใหม่และภาคเหนือว่ามีความสนใจอะไรบ้าง โดยพรุ่งนี้จะเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตมันฝรั่ง ‘เลย์’ จะถือโอกาสสอบถามถึงเหตุผลที่ลงทุนและความต้องการอื่น เพื่อเป็นลู่ทางในการขยายโอกาสการลงทุนของบริษัทจากสหรัฐอเมริกาต่อไป” เอกอัครราชทูตฯ กล่าวทิ้งท้าย