ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยการขุดคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง "จดหมายเปิดผนึก ขอลาออกจากกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยการขุดคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้" โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผมได้ส่งจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการไปยังประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ และขอชี้แจงเหตุผล ดังนี้
๑.กระบวนการพัฒนาของประเทศได้ดำเนินการบนเส้นทางการพัฒนาด้วยเมกกะโปรเจคส์มานานหลายสิบปี วิถีทางการพัฒนาเช่นนี้เป็นประโยชน์สำหรับคนมีอำนาจและกลุ่มทุนด้วยการอ้างผลประโยชน์ประชาชนแต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก่อเกิดความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลาศักยภาพของประชาชนถูกทำลายตลอดเวลาจึงเพียงพอแล้วสำหรับเส้นทางการพัฒนาเช่นนี้
๒.กรรมาธิการควรมีบทบาทในการศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ว่าการพัฒนาเช่นใดจึงจะเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม แม้ว่าจะตั้งต้นด้วยโครงการคลองไทย แต่รูปแบบการศึกษาควรเป็นกระบวนการทำให้เห็นอย่างรอบด้านว่าคลองไทยเหมาะสมกับบริบททางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมหรือไม่ มิใช่ตั้งต้นว่าจะผลักดันคลองไทยอย่างไร
๓.ตลอดเวลาการทำงานของกรรมาธิการมีท่วงทำนองของการผลักดันมิใช่การศึกษาหาคำตอบว่าโครงการเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ เช่น ที่ปรึกษากรรมาธิการหรืออนุกรรมาธิการประกอบด้วยบุคคลที่สนับสนุนการขุดคลองไทย ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ถึงความไม่เป็นกลางของกรรมาธิการ
๔.วิธีคิดของกรรมาธิการสะท้อนจากวิธีการทำงาน เช่น พยายามให้หน่วยงานรัฐบรรจุเรื่องคลองไทยเข้าสู่แผนงานในระดับชาติ เพื่อจะทำให้เกิดการเดินหน้าของโครงการขุดคลองหรือในกระบวนการรับฟังความเห็นของกรรมาธิการทั้งที่จังหวัดกระบี่และนครศรีธรรมราช ล้วนสะท้อนวิธีคิดและเจตนาในการผลักดันมากกว่าการศึกษาหาข้อเท็จจริง
๕.กรรมาธิการใช้ชุดข้อมูลการออกแบบของสมาคมคลองไทยในกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงเจตนาว่า กรรมาธิการกับสมาคมคลองไทยร่วมมือกันทำงานหรือไม่ การใช้กลไกนิติบัญญัติเพื่อการผลักดันโครงการของภาคเอกชนหรือต่างชาติเป็นสิ่งที่ควรกระทำหรือไม่
๖.การผลักดันให้เกิดการศึกษาในเชิงรายละเอียดจะต้องใช้เงินนับหมื่นล้านคุ้มค่าหรือไม่ต่อความเสี่ยงในด้านอธิปไตย ด้านสิ่งแวดล้อม การย้ายผู้คนออกจากแผ่นดินไม่ต่ำกว่าหกหมื่นคนเฉพาะเส้นทางขุดคลอง การศึกษาในระดับมหภาค บทเรียนของคลองอื่นๆ หรือประเด็นเชิงยุทธศาสตร์น่าจะเป็นบทบาทของกรรมาธิการในการเสนอรัฐบาล มากกว่าผลักดันให้เกิดการศึกษาเพื่อการขุดคลอง นอกจากนี้การผลักดัน พรบ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้เพื่อให้คลองไทยเกิดขึ้นได้ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ไม่ควรอย่างยิ่ง
สังคมไทยจำเป็นต้องสร้างมาตรฐานการทำงานใหม่เพื่อการพัฒนาประเทศ เราไม่สามารถใช้ ‘การมโน’ ในการสร้างรูปแบบการพัฒนาประเทศ เช่น มีคลองแล้วจะแก้ปัญหาสามจังหวัด มีแต่คลองไทยเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ เหล่านี้เป็นความ ‘ไร้เดียงสาของวิธีคิด’
ผมได้เคยเสนอในกรรมาธิการให้ศึกษาในเชิงยุทธศาสตร์ก่อน มิใช่มุ่งผลักดันให้เกิดการศึกษาเพื่อการขุดคลอง แต่ระดับนำในกรรมาธิการมีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ฉะนั้นการผลักดันในกรรมาธิการจึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงใด การทำงานกับสังคมจึงเป็นทางออกของการที่จะทำให้สังคมร่วมกันตั้งคำถามและหาทางออกเช่นนี้ได้ดีกว่าเพราะโครงการคลองไทยเปลี่ยนแปลงมหาศาลในประวัติศาสตร์การพัฒนาของประเทศนี้ มิเพียงปัจจัยภายในประเทศแต่รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกด้วย ผลกระทบอันกว้างขวางเช่นนี้ไม่สามารถใช้วิสัยทัศน์อันคับแคบมาดำเนินการได้ การตื่นของสังคมเป็นคำตอบสำคัญของความรอบคอบ
ผมจึงขอทำหน้าที่ให้สังคมตั้งคำถาม จะเป็นประโยชน์สอดคล้องกับผลกระทบอันกว้างขวางเช่นนี้มากกว่า การเดินบนเส้นทางของกรรมาธิการ
โดยหวังว่ากรรมาธิการจะปรับทิศทางของตัวเองใหม่ ด้วยจิตคารวะ
©2018 CK News. All rights reserved.